สหประชาชาติแถลงเตือนในวันจันทร์(29)ว่า “ไข้หวัดนก”แสดงสัญญาณที่จะกลับมาระบาดอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ก็มีสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสH5N1นี้ กำลังแพร่ระบาดอยู่ในเอเชีย โดยทำท่าจะกระจายไปยังหลายๆ ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย
คำแถลงขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ระบุว่า ตั้งแต่ที่เชื้อไวรัสไข้หวัดนกH5N1 ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2003 นั้น ได้มีมนุษย์ป่วยติดเชื้อรวม 565 ราย และเสียชีวิตไป 331 คน พร้อมกันนี้เอฟเอโอก็เรียกร้องให้ประเทศทั้งหลายเพิ่มการติดตามเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งของเชื้อร้ายนี้
เอฟเอโอบอกว่า ไวรัสตัวนี้ในช่วงระบาดสูงสุดเมื่อปี 2006 นั้นปรากฏอยู่ใน 63 ประเทศ แต่หลังจากนั้นก็ถูกกำจัดหมดสิ้นไปในประเทศส่วนใหญ่ ด้วยวิธีการฆ่าสัตว์ปีกที่ติดเชื้อทิ้งอย่างถอนรากถอนโคน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2008 เชื้อH5N1ก็กลับมาขยายตัวไปตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ต่างๆ ทั้งในสัตว์ปีกที่มนุษย์เลี้ยง และในนกป่า สาเหตุของการขยายตัวนี้ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของแบบแผนการอพยพตามฤดูกาลของนก
ฆวน ลูบรอธ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสัตวแพทย์ของเอฟเอโอ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างปี 2004 ถึง 2008 เราจะเห็นแนวโน้มการหดตัวลงเรื่อยๆ ของเชื้อร้ายนี้ แต่ปรากฏว่าในปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงคาดว่าเป็นไปได้ที่ H5N1จะกลับปะทุขึ้นมาใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปีนี้
คำแถลงขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ระบุว่า ตั้งแต่ที่เชื้อไวรัสไข้หวัดนกH5N1 ปรากฏขึ้นครั้งแรกในปี 2003 นั้น ได้มีมนุษย์ป่วยติดเชื้อรวม 565 ราย และเสียชีวิตไป 331 คน พร้อมกันนี้เอฟเอโอก็เรียกร้องให้ประเทศทั้งหลายเพิ่มการติดตามเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งของเชื้อร้ายนี้
เอฟเอโอบอกว่า ไวรัสตัวนี้ในช่วงระบาดสูงสุดเมื่อปี 2006 นั้นปรากฏอยู่ใน 63 ประเทศ แต่หลังจากนั้นก็ถูกกำจัดหมดสิ้นไปในประเทศส่วนใหญ่ ด้วยวิธีการฆ่าสัตว์ปีกที่ติดเชื้อทิ้งอย่างถอนรากถอนโคน อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2008 เชื้อH5N1ก็กลับมาขยายตัวไปตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ต่างๆ ทั้งในสัตว์ปีกที่มนุษย์เลี้ยง และในนกป่า สาเหตุของการขยายตัวนี้ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของแบบแผนการอพยพตามฤดูกาลของนก
ฆวน ลูบรอธ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสัตวแพทย์ของเอฟเอโอ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างปี 2004 ถึง 2008 เราจะเห็นแนวโน้มการหดตัวลงเรื่อยๆ ของเชื้อร้ายนี้ แต่ปรากฏว่าในปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนี้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงคาดว่าเป็นไปได้ที่ H5N1จะกลับปะทุขึ้นมาใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของปีนี้