นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประธานการประชุมศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศอส. เปิดเผยว่า มีจังหวัดประสบสถานการณ์อุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน จำนวน 34 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้สูญหาย 1 คน
ทั้งนี้ นายฉัตรป้อง แจ้งเตือนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งใน 8 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี ตราด อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ โดย ศอส.ได้สั่งกำชับให้ทั้ง 8 จังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัย ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำในลุ่มน้ำสำคัญอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา และที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำของจังหวัดดังกล่าว พร้อมระดมสรรพกำลังและทรัพยากรในทุกระดับให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย หากสถานการณ์รุนแรง ให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที พร้อมขอให้จังหวัดเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดในช่วงน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู โรคปากและเท้าเปื่อย โดยเร่งให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสุขอนามัยในการดำเนินชีวิตที่ถูกสุขลักษณะ
ทั้งนี้ นายฉัตรป้อง แจ้งเตือนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งใน 8 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี ตราด อุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ โดย ศอส.ได้สั่งกำชับให้ทั้ง 8 จังหวัด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัย ตรวจวัดปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำในลุ่มน้ำสำคัญอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา และที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งแม่น้ำของจังหวัดดังกล่าว พร้อมระดมสรรพกำลังและทรัพยากรในทุกระดับให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย หากสถานการณ์รุนแรง ให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที พร้อมขอให้จังหวัดเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดในช่วงน้ำท่วม เช่น โรคฉี่หนู โรคปากและเท้าเปื่อย โดยเร่งให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสุขอนามัยในการดำเนินชีวิตที่ถูกสุขลักษณะ