นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ขยายตัว 2.6 เปอร์เซ็นต์ ชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก ซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 3.2 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจขยายตัว 2.9 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากการส่งออกครึ่งปีแรกลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น ส่งผลต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งการบริโภคในภาคครัวเรือนชะลอตัวเล็กน้อย หลังจากราคาสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้น มีผลให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย
ขณะที่การลงทุนภาครัฐก็หดตัวจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ อย่างไรก็ตาม มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงถึง 56 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเม็ดเงินถึง 150,000 ล้านบาท เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 19 ล้านคน โดยเฉพาะจากจีน เกาหลี และอินเดีย เข้ามามาก
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง สภาพัฒน์ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังได้รับความเสี่ยงหลักจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กระทบเรื่องการส่งออก และราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีก ขณะที่ยังไม่มีโครงการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัว 3.5-4 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ 4.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ยังไม่รวมผลของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินกันอีกครั้ง
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนีหุ้นร่วงลงกว่า 10 จุด หลังจากที่สภาพัฒน์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ออกมาชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สาเหตุมาจากการส่งออกครึ่งปีแรกลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น ส่งผลต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งการบริโภคในภาคครัวเรือนชะลอตัวเล็กน้อย หลังจากราคาสินค้ามีการปรับตัวสูงขึ้น มีผลให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย
ขณะที่การลงทุนภาครัฐก็หดตัวจากความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ อย่างไรก็ตาม มีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงถึง 56 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเม็ดเงินถึง 150,000 ล้านบาท เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 19 ล้านคน โดยเฉพาะจากจีน เกาหลี และอินเดีย เข้ามามาก
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง สภาพัฒน์ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังได้รับความเสี่ยงหลักจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กระทบเรื่องการส่งออก และราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีก ขณะที่ยังไม่มีโครงการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัว 3.5-4 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ 4.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ยังไม่รวมผลของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะต้องมีการประเมินกันอีกครั้ง
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ดัชนีหุ้นร่วงลงกว่า 10 จุด หลังจากที่สภาพัฒน์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ออกมาชะลอตัวลง
