นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีการดำเนินคดีกับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ภายหลังกรมศุลกากรมีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ พร้อมทั้งนายจรณชัย ศัลยพงษ์ กับพวกรวม 14 คน ในข้อหาร่วมกันสำแดงราคาอันเป็นเท็จ ในการนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และแอลแอนด์เอ็ม เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงค่าภาษีอากร ทำให้ค่าภาษีอากรต่ำประมาณ 68,000ล้านบาท
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการพิเศษเพื่อพิจารณา
ต่อมาอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาแล้วมีความเห็นต่าง พร้อมทั้งส่งสำนวนสอบสวนกลับมายังดีเอสไอพิจารณาว่าจะมีความเห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวด้วยหรือไม่ โดยนายธาริต กล่าวว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่ามีการสำแดงราคาที่ไม่ใช่ราคาซื้อขายจริง ดีเอสไอจึงยืนยันความเห็นสั่งฟ้อง แย้งความเห็นของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้เสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดแล้ว เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดความเห็นแย้งตามกฎหมาย และเมื่ออัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามความเห็นนั้น หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีถือว่ายุติ แต่ถ้ามีความเห็นสั่งฟ้องคดีก็จะถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต่อไป
นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวว่า แม้กรมศุลกากรจะยืนยันว่าบริษัทฟิลิป มอร์ริส เสียภาษีถูกต้อง แต่ก็เป็นเรื่องของการประเมินภาษีซึ่งกฎหมายไม่ได้ตัดสิทธิ์หน่วยบังคับใช้กฎหมายอื่นให้ใช้ดุลพินิจสั่งคดี โดยความเห็นของศุลการกรถือเป็นการใช้ดุลพินิจในส่วนของกรมศุลกากร แต่เมื่อดีเอสไอเห็นต่างก็จำเป็นต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดให้ชี้ขาด พร้อมทั้งยืนยันว่า การสั่งฟ้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด ดีเอสไอพิจารณาด้วยความรอบคอบ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไม่ได้ถูกการเมืองแทรกแซง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการพิเศษเพื่อพิจารณา
ต่อมาอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาแล้วมีความเห็นต่าง พร้อมทั้งส่งสำนวนสอบสวนกลับมายังดีเอสไอพิจารณาว่าจะมีความเห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวด้วยหรือไม่ โดยนายธาริต กล่าวว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีพฤติกรรมที่น่าเชื่อว่ามีการสำแดงราคาที่ไม่ใช่ราคาซื้อขายจริง ดีเอสไอจึงยืนยันความเห็นสั่งฟ้อง แย้งความเห็นของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้เสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดแล้ว เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดความเห็นแย้งตามกฎหมาย และเมื่ออัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามความเห็นนั้น หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีถือว่ายุติ แต่ถ้ามีความเห็นสั่งฟ้องคดีก็จะถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต่อไป
นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวว่า แม้กรมศุลกากรจะยืนยันว่าบริษัทฟิลิป มอร์ริส เสียภาษีถูกต้อง แต่ก็เป็นเรื่องของการประเมินภาษีซึ่งกฎหมายไม่ได้ตัดสิทธิ์หน่วยบังคับใช้กฎหมายอื่นให้ใช้ดุลพินิจสั่งคดี โดยความเห็นของศุลการกรถือเป็นการใช้ดุลพินิจในส่วนของกรมศุลกากร แต่เมื่อดีเอสไอเห็นต่างก็จำเป็นต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดให้ชี้ขาด พร้อมทั้งยืนยันว่า การสั่งฟ้องครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด ดีเอสไอพิจารณาด้วยความรอบคอบ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไม่ได้ถูกการเมืองแทรกแซง
