นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเจรจาต่อสัญญาเช่าพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร ที่ กทม.จะต้องเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้แล้วเสร็จก่อนหมดสัญญาวันที่ 1 มกราคม 2555 ว่า กทม.จะเร่งหาข้อสรุปให้ได้ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ โดยจะใช้แนวทาง 3 แนวทาง คือ เดินหน้าพุ่งชน ประนีประนอม หรือยื่นเรื่องให้กฤษฎีกาตีความ หลังจากที่ กทม.กับ รฟท. ยังยืนยันในราคาค่าเช่าฝ่ายของตนเอง โดย กทม.เสนอราคาค่าเช่า 30 ปี อยู่ที่ประมาณปีละ 79 ล้านบาท ส่วน รฟท. เสนอให้เช่าในราคาปีละ 1,100 ล้านบาท ซึ่งการเจรจาครั้งล่าสุด รฟท.ลดค่าเช่าเหลือ 420 ล้านบาท แต่ยังเป็นราคาสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาที่ กทม.ยื่นเสนอไป
นายพรเทพ กล่าวต่อว่า กทม.ประเมินเรื่องราคาเช่า มีเหตุผลกับพื้นที่ เพราะค่าเช่าพื้นที่ที่ทาง รฟท. เสนอมา เป็นราคาที่เทียบเท่ากับการบริหารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะแนวทางของ กทม.ประเมินเรื่องการคงรูปแบบตลาดนัดจตุจักร ไว้แบบเดิมที่จะเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคงเอกลักษณ์ร้านค้าแผงลอยเป็นหมื่นร้าน ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะตลาดนัดจตุจักร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบของตลาดนัดจตุจักร เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ก็อาจเสียเอกลักษณ์ของกรุงเทพได้
นายพรเทพ กล่าวต่อว่า กทม.ประเมินเรื่องราคาเช่า มีเหตุผลกับพื้นที่ เพราะค่าเช่าพื้นที่ที่ทาง รฟท. เสนอมา เป็นราคาที่เทียบเท่ากับการบริหารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะแนวทางของ กทม.ประเมินเรื่องการคงรูปแบบตลาดนัดจตุจักร ไว้แบบเดิมที่จะเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคงเอกลักษณ์ร้านค้าแผงลอยเป็นหมื่นร้าน ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะตลาดนัดจตุจักร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบของตลาดนัดจตุจักร เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ก็อาจเสียเอกลักษณ์ของกรุงเทพได้
