เชียงใหม่ - ม็อบร้านค้าแผงลอยหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ เฉียด 200 ราย หวิดปะทะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เหตุไม่พอใจ จนท.เข้าตรวจสอบบันทึกรายละเอียดที่ตั้งร้านที่รุกล้ำเขตอุทยาน เพื่อเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (29 ส.ค.) ที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้นำเจ้าหน้าที่อุทยานประมาณ 100 คน เข้าทำการตรวจสอบเพื่อเตรียมทำการรื้อถอนร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณหน้าวัดซึ่งรุกล้ำพื้นที่อุทยาน โดยในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ปรากฏว่ามีกลุ่มเจ้าของร้านค้าในบริเวณดังกล่าวร่วม 200 คน รวมตัวประท้วงและชูป้ายที่เขียนความต่อต้านการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้
ทั้งนี้ เจ้าของร้านบางรายได้ขัดขวางการเข้าดำเนินการของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ยินยอมให้เข้าไปทำการตรวจสอบ และมีการตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มบานปลาย เมื่อมีการขว้างปาสิ่งของและก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทำให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ต้องเข้าเจรจากับกลุ่มเจ้าของร้านค้า เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจว่าการดำเนินการในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจวัดพื้นที่ จัดทำรายละเอียดและติดหมายเลขให้ร้านค้า
โดยหากพบว่าร้านใดที่รุกล้ำพื้นที่ และยังคงฝ่าฝืนขายสินค้าอยู่ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาทางอุทยานได้ติดป้ายประกาศแจ้งเตือนไว้แล้ว ขณะที่ต่อมาได้มี นายทวีพงษ์ หินคำ นายกเทศมนตรีตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมเจรจากับทางกลุ่มเจ้าของร้านด้วย โดยบอกว่าได้ส่งเรื่องกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้วและอยู่ระหว่างรอคำตอบ ทางกลุ่มเจ้าของร้านจึงยอมสลายตัว
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่ตั้งของร้านค้าแต่ละร้าน เพื่อเตรียมแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยที่ไม่ได้เป็นการเข้าทำการรื้อถอนแต่อย่างใด ทั้งนี้ จะได้ส่งเรื่องและรายละเอียดทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ให้ดำเนินการ
สำหรับการดำเนินการทั้งหมด ยืนยันว่า เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อจัดระเบียบการใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ให้ถูกต้อง ส่วนการนัดประชุมพูดคุยหารือกับทางกลุ่มเจ้าของร้านเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกันนั้น เห็นว่าน่าจะสามารถทำได้ แต่ทุกฝ่ายต้องเข้าใจเหตุผลของแต่ละฝ่ายด้วย
ขณะที่ นางสุนี อนุกูล อายุ 55 ปี แกนนำกลุ่มเจ้าของร้านค้า กล่าวว่า กลุ่มเจ้าของร้านค้าคัดค้านการดำเนินการในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ เพราะแต่ละร้านต่างเปิดขายมาเป็นเวลานาน และหลายร้านเปิดขายมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีกฎหมายในเรื่องนี้ออกมาบังคับใช้ด้วย นอกจากนี้หากมีการรื้อถอนร้านค้าออกไปก็จะทำให้เจ้าของร้านแต่ละรายไม่มีช่องทางทำมาหากินและยากที่จะไปเริ่มต้นอาชีพใหม่เพราะยึดอาชีพค้าขายมานานแล้ว
ทั้งนี้ เห็นว่า การดำเนินการต่างๆ ไม่เคยมีการปรึกษาหารือกับทางกลุ่มเจ้าของร้านค้า มีแต่การประชุมกันของเจ้าหน้าที่รัฐและสั่งการลงมาเท่านั้น ทำให้ประชาชนเดือดร้อน จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วย โดยหากเป็นไปได้อย่างน้อยอยากให้มีการจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมทดแทนให้สำหรับตั้งร้านค้า ซึ่งจากนี้จะเร่งรวบรวมรายชื่อเจ้าของร้านที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดส่งให้ทางอุทยานฯ เพื่อขอเปิดประชุมหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป