ผู้ว่าฯ ธปท.ย้ำขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อลุกลาม หวั่นกระทบ ศก.

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัญหาเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่น่ากังวล และต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากลุกลามออกไปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งในระยะสั้นต่อการบริโภค การลงทุน การผลิต และในระยะยาว อาจจะเป็นผลลบต่อเสถียรภาพและระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงิน คืออัตราดอกเบี้ยดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 0.5-3 ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สำหรับขนาดและความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินเฟ้อต้องขึ้นอยู่กับความแรงของอัตราเงินเฟ้อว่าจะเร่งตัวมากขึ้นเพียงใด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 1.75 มาเป็นร้อยละ 3.25 แต่สัดส่วนต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ของต้นทุนรวม ซึ่งภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังสามารถรองรับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้ และมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยป้องกันปัญหาเงินเฟ้อไม่ให้ลุกลาม จนทำให้ต้นทุนวัตถุดิบที่มีสัดส่วนสูงกว่าต้องเร่งขึ้น
ส่วนการสำรวจความเห็นผู้ประกอบการก่อสร้างของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า อุตสาหกรรมนี้มีสัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 ของต้นทุนรวมทั้งหมด เห็นได้จากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเฉลี่ยเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2554 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ที่สูงขึ้นร้อยละ 5.8 อย่างไรก็ตาม การผลิตของธุรกิจส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ยังขยายตัวได้ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทำสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าไว้แล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาวัตถุดิบ และมีการปรับตัวโดยหันมาใช้วัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปมากขึ้น