กลุ่มผู้ค้า ในนามสมาคมผู้ประกอบการค้าตลาดนัดจตุจักร รวมตัวกันบริเวณหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับสัญญาเช่าพื้นที่ขายสินค้า ก่อนที่จะครบกำหนดสัญญาเดิมในสิ้นปีนี้ ว่าจะให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) บริหารจัดการต่อ หรือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะดำเนินการแทน ในฐานะเจ้าของพื้นที่
ทั้งนี้ ผู้ค้าระบุว่า อัตราค่าเช่าใหม่ที่การรถไฟฯ กำหนดนั้นไม่เป็นธรรม เพราะมีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน เทียบกับค่าเช่าปกติของกรุงเทพมหานคร ที่จัดเก็บเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน
ขณะเดียวกัน ผู้ค้ายังเสนอข้อเรียกร้อง 4 ประการ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ได้แก่ กระทรวงฯ ควรเร่งเจรจากับ กทม.เพื่อหาข้อยุติเรื่องค่าเช่าพื้นที่ด้วยราคาที่เป็นธรรมกับ 3 ฝ่าย ให้กระทรวงฯ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม ที่ให้หน่วยงานท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการ กลุ่มผู้ค้าเห็นว่าอัตราค่าเช่าใหม่ ควรมีอัตราใกล้เคียงกับค่าเช่าขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และควรต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี และขอให้ตลาดนัดจตุจักรเป็นตลาดนัดของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีกลุ่มทุนมาแอบแฝง
ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เรียกนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท.เข้าหารือ โดยย้ำจุดยืนว่า รฟท.ต้องหารายได้เข้าองค์กรมากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด หลังขาดทุนสะสมเกือบ 70,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เช่น บำนาญ เงินเดือนพนักงาน และค่าซ่อมบำรุงรถไฟ
ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ค้าที่ต้องการให้หน่วยงานท้องถิ่นบริหารจัดการแทน รฟท.ต่อไปนั้น บอร์ด รฟท.จะเป็นผู้พิจารณา พร้อมระบุว่า ผู้ค้าตัวจริงจะยอมรับอัตราค่าเช่าใหม่ได้อย่างแน่นอน เพราะถูกกว่าการเช่าช่วงต่อที่ถูกเรียกเก็บหลายหมื่นบาทต่อเดือน เป็นราคาที่ถูกกว่าการเรียกเก็บจากการเช่าช่วงต่อ ซึ่งหาก กทม.ต้องการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ รฟท.ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ค้าระบุว่า อัตราค่าเช่าใหม่ที่การรถไฟฯ กำหนดนั้นไม่เป็นธรรม เพราะมีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาทต่อเดือน เทียบกับค่าเช่าปกติของกรุงเทพมหานคร ที่จัดเก็บเพียงหลักร้อยบาทต่อเดือน
ขณะเดียวกัน ผู้ค้ายังเสนอข้อเรียกร้อง 4 ประการ ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ได้แก่ กระทรวงฯ ควรเร่งเจรจากับ กทม.เพื่อหาข้อยุติเรื่องค่าเช่าพื้นที่ด้วยราคาที่เป็นธรรมกับ 3 ฝ่าย ให้กระทรวงฯ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเดิม ที่ให้หน่วยงานท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการ กลุ่มผู้ค้าเห็นว่าอัตราค่าเช่าใหม่ ควรมีอัตราใกล้เคียงกับค่าเช่าขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และควรต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี และขอให้ตลาดนัดจตุจักรเป็นตลาดนัดของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีกลุ่มทุนมาแอบแฝง
ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เรียกนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท.เข้าหารือ โดยย้ำจุดยืนว่า รฟท.ต้องหารายได้เข้าองค์กรมากขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด หลังขาดทุนสะสมเกือบ 70,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เช่น บำนาญ เงินเดือนพนักงาน และค่าซ่อมบำรุงรถไฟ
ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ค้าที่ต้องการให้หน่วยงานท้องถิ่นบริหารจัดการแทน รฟท.ต่อไปนั้น บอร์ด รฟท.จะเป็นผู้พิจารณา พร้อมระบุว่า ผู้ค้าตัวจริงจะยอมรับอัตราค่าเช่าใหม่ได้อย่างแน่นอน เพราะถูกกว่าการเช่าช่วงต่อที่ถูกเรียกเก็บหลายหมื่นบาทต่อเดือน เป็นราคาที่ถูกกว่าการเรียกเก็บจากการเช่าช่วงต่อ ซึ่งหาก กทม.ต้องการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของ รฟท.ด้วย
