นายสมคิด สิริวัฒนากุล คณะประสานงานองค์กรชุมชน (คปอ.) เปิดเผยว่า คปอ. ซึ่งทำงานประสานขับเคลื่อนการพัฒนาภาคประชาชน โดยองค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้เปิดเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการออกแบบปฏิรูปขบวนองค์กรชุมชนสู่การจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีตัวแทนขบวนองค์กรชุมชนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม ซึ่งการสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ เป็นไปเพื่อให้ขบวนองค์กรชุมชนได้จัดทัพปรับขบวนในทุกมิติ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองทั้งในระดับตำบล จังหวัด ภูมินิเวศ มีประสิทธิภาพสูงสุด และสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ที่เน้นการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง องค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก ท้องถิ่น ท้องที่ หน่วยงานราชการ เอกชน ภาคีพัฒนา สถาบันการศึกษา และทุกภาคส่วนในชุมชนท้องถิ่นทุกระดับ เข้ามาเป็นองค์กรสนับสนุน
นายสมคิด กล่าวว่า ผลจากเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ ขบวนองค์กรชุมชนเห็นร่วมกันว่า ต้องเกิดปฏิบัติการจริงในระดับพื้นที่ 11 ภาค เฉลี่ยภาคละ 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือตอนบน เหนือตอนล่าง ภาคอีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันตก ภาคใต้ตอนบน ภาคใต้ตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกรุงเทพฯปริมณฑล เพื่อให้เกิดการจัดการตนเองของขบวนองค์กรชุมชนร่วมกับสำนักงานปฏิบัติการภาคของ พอช. อาทิ การบริหารจัดการขบวน การบริหารงบประมาณ และการเชื่อมโยงประสานการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระดับพื้นที่ ให้สนองตอบต่อการพัฒนาอย่างแท้จริงในพื้นที่ตำบล จังหวัด และภูมินิเวศ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการปฏิรูปประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง
นายแก้ว สังข์ชู ประธานร่วมคณะกรรมการเครือข่ายองค์กรชุมชนเพื่อการปฏิรูป และกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กล่าวว่า เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนได้ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยมาโดยตลอด และข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปจากมติสมัชชาเครือข่ายองค์กรชุมชนทั้งเรื่องชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง การใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งและองค์กรชุมชนเป็นแกนหลักในการพัฒนา และเรื่องอื่นๆ ได้ถูกนำเสนอต่อรัฐบาล พรรคการเมือง และผู้เกี่ยวข้องไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับการจัดทัพปรับขบวนของเครือข่ายองค์กรชุมชนในระดับพื้นที่ เป็นมิติใหม่ของการพัฒนาที่นอกจากจะให้องค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก ใช้พื้นที่ตำบล จังหวัด ภูมินิเวศ เป็นตัวตั้งแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ขบวนชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ แนวทาง กรอบการดำเนินงาน ร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์การมหาชน อย่าง พอช.ด้วย
นายสมคิด กล่าวว่า ผลจากเวทีสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ ขบวนองค์กรชุมชนเห็นร่วมกันว่า ต้องเกิดปฏิบัติการจริงในระดับพื้นที่ 11 ภาค เฉลี่ยภาคละ 7 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือตอนบน เหนือตอนล่าง ภาคอีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันตก ภาคใต้ตอนบน ภาคใต้ตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกรุงเทพฯปริมณฑล เพื่อให้เกิดการจัดการตนเองของขบวนองค์กรชุมชนร่วมกับสำนักงานปฏิบัติการภาคของ พอช. อาทิ การบริหารจัดการขบวน การบริหารงบประมาณ และการเชื่อมโยงประสานการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระดับพื้นที่ ให้สนองตอบต่อการพัฒนาอย่างแท้จริงในพื้นที่ตำบล จังหวัด และภูมินิเวศ ซึ่งเป็นเป้าหมายของการปฏิรูปประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง
นายแก้ว สังข์ชู ประธานร่วมคณะกรรมการเครือข่ายองค์กรชุมชนเพื่อการปฏิรูป และกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กล่าวว่า เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนได้ร่วมขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยมาโดยตลอด และข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปจากมติสมัชชาเครือข่ายองค์กรชุมชนทั้งเรื่องชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง การใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งและองค์กรชุมชนเป็นแกนหลักในการพัฒนา และเรื่องอื่นๆ ได้ถูกนำเสนอต่อรัฐบาล พรรคการเมือง และผู้เกี่ยวข้องไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับการจัดทัพปรับขบวนของเครือข่ายองค์กรชุมชนในระดับพื้นที่ เป็นมิติใหม่ของการพัฒนาที่นอกจากจะให้องค์กรชุมชนเป็นแกนหลัก ใช้พื้นที่ตำบล จังหวัด ภูมินิเวศ เป็นตัวตั้งแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ขบวนชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ แนวทาง กรอบการดำเนินงาน ร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์การมหาชน อย่าง พอช.ด้วย