นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ยอดจากการจดทะเบียนธุรกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่า มีจำนวน 4,862 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ธุรกิจที่จดทะเบียนเพิ่มสูงสุดคือ การบริการนันทนาการจำนวน 1,379 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 รองลงมาคือธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 361 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจมีจำนวน 681 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 ซึ่งธุรกิจยกเลิกสูงสุดคือ ธุรกิจการก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 103 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 รองลงมาคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 34 ราย เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 4 ส่งผลให้ปัจจุบันนั้นมีจำนวนรวมนิติบุคคลอยู่ทั่วประเทศจำนวน 465,374 ราย
สำหรับการจดทะเบียน 5 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 20,834 ราย คิดเป็นร้อยละ 25 ขณะที่จดทะเบียนเลิกนั้นมีจำนวน 3,038 ราย คิดเป็นร้อยละ 21
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ และทิศทางดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเรื่องการเมือง ซึ่งอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับภาคธุรกิจ และส่งผลต่อการจัดตั้งใหม่ในอนาคตได้
สำหรับการจดทะเบียน 5 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น 20,834 ราย คิดเป็นร้อยละ 25 ขณะที่จดทะเบียนเลิกนั้นมีจำนวน 3,038 ราย คิดเป็นร้อยละ 21
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีและขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ และทิศทางดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และเรื่องการเมือง ซึ่งอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับภาคธุรกิจ และส่งผลต่อการจัดตั้งใหม่ในอนาคตได้
