เวลาประมาณ 21.00 น.วันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ไทยจะเข้าให้คำชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลก จากกรณีที่กัมพูชาได้ร้องต่อศาลโลกขอให้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว และให้ตีความคำพิพากษาของศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 ซึ่งนายวีรชัย พลาศัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดี จะขึ้นชี้แจงเป็นปากแรก จากนั้นจะเป็นทนายความ 4 คน ของฝ่ายไทย ใช้เวลาคนละประมาณ 30 นาที โดยประเด็นที่ทนายความจะให้น้ำหนัก คือ อำนาจหน้าที่ของศาลโลกในการพิจารณาคดี เนื่องจากแนวทางการต่อสู้คดีของไทยนั้น จะชี้แจงให้เห็นว่าศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขตแดน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้การคุ้มครองตามที่กัมพูชาร้องขอ เนื่องจากไทยไม่เคยรุกล้ำเข้าไปในตัวปราสาท ที่เมื่อปี 2505 ศาลโลกเคยพิพากษาให้ตัวปราสาทเป็นเขตแดนของกัมพูชา และไทยยังมีมติคณะรัฐมนตรีในปีนั้น ให้กำหนดพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นที่ของกัมพูชา และไม่เคยรุกล้ำเข้าไป ซึ่งกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาทที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการปักปันเขตแดนระหว่างทั้งสองประเทศ
ขณะที่คำร้องของกัมพูชาให้ศาลโลกออกมาตรการชั่วคราวระหว่างการรอตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 นั้น กัมพูชาได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ไทยถอนกำลังทั้งหมดออกจากส่วนต่างๆ ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นดินแดนกัมพูชา ในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ห้ามไทยมีกิจกรรมทางทหารใดๆ ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และให้ไทยงดการกระทำหรือดำเนินการใดๆ ที่กระทบกับสิทธิของกัมพูชา หรือเพิ่มความขัดแย้งในการตีความ จนกว่าศาลโลกจะตีความคำพิพาษาเสร็จ
จากนั้นอีกประมาณ 3 สัปดาห์ เชื่อว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาว่าจะออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวตามที่กัมพูชาร้องขอหรือไม่ ส่วนการพิจารณารับคำร้องตีความคำพิพากษาศาลโลกนั้น ให้คู่ความทั้งสองประเทศยื่นเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายในเดือนกันยายนนี้
ขณะที่คำร้องของกัมพูชาให้ศาลโลกออกมาตรการชั่วคราวระหว่างการรอตีความคำพิพากษาเมื่อปี 2505 นั้น กัมพูชาได้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ไทยถอนกำลังทั้งหมดออกจากส่วนต่างๆ ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นดินแดนกัมพูชา ในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ห้ามไทยมีกิจกรรมทางทหารใดๆ ในพื้นที่ปราสาทพระวิหาร และให้ไทยงดการกระทำหรือดำเนินการใดๆ ที่กระทบกับสิทธิของกัมพูชา หรือเพิ่มความขัดแย้งในการตีความ จนกว่าศาลโลกจะตีความคำพิพาษาเสร็จ
จากนั้นอีกประมาณ 3 สัปดาห์ เชื่อว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมาว่าจะออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวตามที่กัมพูชาร้องขอหรือไม่ ส่วนการพิจารณารับคำร้องตีความคำพิพากษาศาลโลกนั้น ให้คู่ความทั้งสองประเทศยื่นเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรภายในเดือนกันยายนนี้