พญ.เพชรศรี ศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจัดการปัญหาเอดส์แห่งชาติ กล่าวในการเสวนาหัวข้อ "ข้อเสนอแนะต่อแผนยุทธศาสตร์บูรณาการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติปี 2555-2559" ถึงแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ฉบับที่ 5 ว่า แม้คณะกรรมการเอดส์แห่งชาติจะกำหนดเป้าหมายลดอัตราผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ได้ 2 ใน 3 จากผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มได้อีกกว่า 43,000 คน หรือปีละ 8,600 คนในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเช่น กลุ่มชายรักชาย ผู้ใช้สารเสพติดจากการฉีด พนักงานบริการ และกลุ่มแม่บ้านที่ติดเชื้อจากสามี โดยผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนจะต้องเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ และเท่าเทียมกัน แต่การจัดหางบประมาณเพื่อจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการป้องกันโรคเอดส์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโลก ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาล และทุกฝ่าย ต้องช่วยกันหาทางออก เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบ
ขณะที่นายนิวัตร สุวรรณพัฒนา นักวิชาการด้านเอดส์ กล่าวว่า การสำรวจความเห็นประชาชนใน 4 ภาค ส่วนใหญ่เห็นว่า แผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ควรให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิความเป็นมนุษย์ ความหลากหลายทางเพศ และความแตกต่างของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยจะต้องมีการปฏิรูปสังคม และการเมือง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และก้าวสู่ความเป็นรัฐสวัสดิการ ที่มีมาตรการป้องกัน ดูแลรักษา ลดผลกระทบ และการเลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกันควรมีโครงสร้าง และกลไกการขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนวาระเอดส์แห่งชาติ และกระบวนการทำงานของภาคประชาสังคม
ขณะที่นายนิวัตร สุวรรณพัฒนา นักวิชาการด้านเอดส์ กล่าวว่า การสำรวจความเห็นประชาชนใน 4 ภาค ส่วนใหญ่เห็นว่า แผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ ควรให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิความเป็นมนุษย์ ความหลากหลายทางเพศ และความแตกต่างของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยจะต้องมีการปฏิรูปสังคม และการเมือง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และก้าวสู่ความเป็นรัฐสวัสดิการ ที่มีมาตรการป้องกัน ดูแลรักษา ลดผลกระทบ และการเลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกันควรมีโครงสร้าง และกลไกการขับเคลื่อน เพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชนวาระเอดส์แห่งชาติ และกระบวนการทำงานของภาคประชาสังคม