นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวง ทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน ที่กระทรวงสาธารณสุขจัด ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554
ซึ่งดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 และจะสิ้นสุดโครงการในปีนี้ว่า สามารถคัดกรองโรคเบาหวานได้ 20,985,133 คน พบผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ร้อยละ 15 หรือ 3.1 ล้านคน โดยแยกเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วย 1,710,521 คน เป็นเบาหวานรายใหม่ 353,189 คน และรายเก่า 1,070,737 คน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน ร้อยละ 10 มากที่สุด คือตาต้อกระจก รองลงมาคือแผลที่เท้าและไตวาย ส่วนโรคความดันโลหิตสูง คัดกรอง 21,168,414 คน ตรวจพบผู้มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติร้อยละ 22 หรือ 4.5 ล้านคน โดยแยกเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วย 2,405,741 คน ผู้ป่วยรายใหม่ 651,867 คน และรายเก่า 1,509,551คน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน ร้อยละ 6 อันดับ 1คือโรคหัวใจ รองลงมาคือเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกและไตวาย นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่ป่วยทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 635,850 คน มีภาวะแทรกซ้อนร้อยละ 10
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะมีมาตรการดูแลประชาชนที่คัดกรองและขึ้นทะเบียนแล้ว โดยแยกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปกติ จะรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรม 3 อ. 2 ส. คือ ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ การไม่ดื่มสุรา และสูบบุหรี่ กลุ่มเสี่ยงป่วย ได้รับการดูแล 2 ลักษณะ คือรายบุคคล จะให้คำปรึกษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนกลุ่มบุคคล จะทำให้เกิดองค์กรชุมชนไร้พุง โดยใช้เครื่องมือแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ และกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะได้รับการดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และการให้บริการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน และค้นหาโรคแทรกซ้อน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน จะได้การดูแลจากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
ซึ่งดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 และจะสิ้นสุดโครงการในปีนี้ว่า สามารถคัดกรองโรคเบาหวานได้ 20,985,133 คน พบผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ร้อยละ 15 หรือ 3.1 ล้านคน โดยแยกเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วย 1,710,521 คน เป็นเบาหวานรายใหม่ 353,189 คน และรายเก่า 1,070,737 คน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน ร้อยละ 10 มากที่สุด คือตาต้อกระจก รองลงมาคือแผลที่เท้าและไตวาย ส่วนโรคความดันโลหิตสูง คัดกรอง 21,168,414 คน ตรวจพบผู้มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติร้อยละ 22 หรือ 4.5 ล้านคน โดยแยกเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วย 2,405,741 คน ผู้ป่วยรายใหม่ 651,867 คน และรายเก่า 1,509,551คน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน ร้อยละ 6 อันดับ 1คือโรคหัวใจ รองลงมาคือเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกและไตวาย นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่ป่วยทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง 635,850 คน มีภาวะแทรกซ้อนร้อยละ 10
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะมีมาตรการดูแลประชาชนที่คัดกรองและขึ้นทะเบียนแล้ว โดยแยกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปกติ จะรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรม 3 อ. 2 ส. คือ ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ การไม่ดื่มสุรา และสูบบุหรี่ กลุ่มเสี่ยงป่วย ได้รับการดูแล 2 ลักษณะ คือรายบุคคล จะให้คำปรึกษาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนกลุ่มบุคคล จะทำให้เกิดองค์กรชุมชนไร้พุง โดยใช้เครื่องมือแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ และกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน จะได้รับการดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และการให้บริการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน และค้นหาโรคแทรกซ้อน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน จะได้การดูแลจากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
