กลุ่มเพื่อใช้แรงงานรวมตัวกันร่วมเดินขบวนเพื่อรณรงค์ รวมทั้งสร้างความตระหนักให้ประชาชนเข้าใจถึงสิทธิแรงงานและความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ท่ามกลางบรรยากาศของสายฝนที่ตกลงมาโปรยปรายอย่างหนัก ซึ่งปีนี้การเดินขบวนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ในกลุ่มของสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานแห่งประเทศไทยจะเคลื่อนขบวนจากลานพระบรมรูปทรงม้าเดินไปตามถนนราชดำเนินมุ่งหน้าเข้าสู่ลานคนเมืองศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นข้อเรียกร้องจำนวน 9 ข้อต่อรัฐบาลถึงคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของแรงงานที่ยังไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องของค่าจ้าง สวัสดิการ และความมั่นคงในการทำงานที่ยังไม่เป็นธรรม
สำหรับข้อเรียกร้อง 9 ข้อของสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานแห่งประเทศไทย คือ การให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 การจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้กับลูกจ้าง ในกรณีที่สถานประกอบการปิดกิจการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในการทำงาน การปรับค้าจ้างที่เป็นธรรมกับลูกจ้าง พร้อมกำหนดให้มีโครงสร้างค่าจ้างและรายได้แห่งชาติทุกสาขาอาชีพ การให้รัฐบาลปฏิรูประบบประกันสังคม รวมถึงการให้รัฐบาลยกเลิกพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ 2542 และยกเลิกการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจทุกกิจการ ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้ของลูกจ้าง ในกรณีเงินค่าชดเชย และเงินรายได้อื่นๆ ซึ่งเป็นเงินงวดสุดท้าย และการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา 118 ให้กับลูกจ้าง จากเดิม 10 ปีขึ้นเพิ่มอีกเป็นปีละ 30 วัน ให้รัฐบาลมีการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กและศูนย์เก็บน้ำนมแม่ รวมถึงข้อสุดท้ายคือ ให้รัฐบาลรวมกฎหมายแรงงานทุกประเภทเป็นประมวลกฎหมายแรงงานฉบับเดียวและบังคับใช้ทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
สำหรับการจัดกิจกรรมของอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มเดินขบวนจากบริเวณหน้ารัฐสภามายังที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง แต่ว่าข้อเรียกร้องในครั้งนี้จะสอดคล้องกับอีกกลุ่มหนึ่งที่กล่าวไปแล้ว แต่จะมีการเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทันทีที่กลุ่มเครือข่ายผู้ใช้แรงงานเดินทางมาถึงที่บริเวณลานคนเมืองจะมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยมีการยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นประธานในการยื่นข้อเรียกร้องด้วยตัวเอง
สำหรับข้อเรียกร้อง 9 ข้อของสภาองค์การลูกจ้าง สภาแรงงานแห่งประเทศไทย คือ การให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 การจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงให้กับลูกจ้าง ในกรณีที่สถานประกอบการปิดกิจการเลิกจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในการทำงาน การปรับค้าจ้างที่เป็นธรรมกับลูกจ้าง พร้อมกำหนดให้มีโครงสร้างค่าจ้างและรายได้แห่งชาติทุกสาขาอาชีพ การให้รัฐบาลปฏิรูประบบประกันสังคม รวมถึงการให้รัฐบาลยกเลิกพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ 2542 และยกเลิกการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจทุกกิจการ ยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้ของลูกจ้าง ในกรณีเงินค่าชดเชย และเงินรายได้อื่นๆ ซึ่งเป็นเงินงวดสุดท้าย และการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา 118 ให้กับลูกจ้าง จากเดิม 10 ปีขึ้นเพิ่มอีกเป็นปีละ 30 วัน ให้รัฐบาลมีการจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กและศูนย์เก็บน้ำนมแม่ รวมถึงข้อสุดท้ายคือ ให้รัฐบาลรวมกฎหมายแรงงานทุกประเภทเป็นประมวลกฎหมายแรงงานฉบับเดียวและบังคับใช้ทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ
สำหรับการจัดกิจกรรมของอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มเดินขบวนจากบริเวณหน้ารัฐสภามายังที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง แต่ว่าข้อเรียกร้องในครั้งนี้จะสอดคล้องกับอีกกลุ่มหนึ่งที่กล่าวไปแล้ว แต่จะมีการเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทันทีที่กลุ่มเครือข่ายผู้ใช้แรงงานเดินทางมาถึงที่บริเวณลานคนเมืองจะมีการยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยมีการยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเป็นประธานในการยื่นข้อเรียกร้องด้วยตัวเอง