พณ.ไฟเขียวปิดด่านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ตัดเส้นทางลำเลียงยุทธปัจจัย

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศติดตามสถานการณ์ค้าชายแดนกับสำนักงานพาณิชย์ จ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ และ จ.สระแก้ว เบื้องต้นพบว่า การปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย และการปิดด่านชายแดน 2 แห่ง คือ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ และจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ ทำให้การค้าชายแดนในบริเวณดังกล่าวชะงักงัน
ทั้งนี้ ในปี 2553 มีมูลค่าการค้าชายแดน จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ รวมกัน 1,673 ล้านบาท หรือวันละ 4.6 ล้านบาท และใน 3 เดือนแรก ปี 2554 (ม.ค. - มี.ค.) ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดน ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลง 79.4 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่า 119.7 ล้านบาท หรือวันละ1.3 ล้านบาท หากรวมผลกระทบ 3 - 4 วันที่ผ่านมา ประมาณ 4 - 5 ล้านบาท ถือว่าน้อยมาก
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ด่านการค้าที่มีการส่งออกสินค้าไทยไปยังกัมพูชา ปริมาณมากที่สุดอยู่ที่ด่าน จ.สระแก้ว ส่วนด่านการค้าชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ สินค้าส่งออกไปกัมพูชาส่วนใหญ่ นอกจากสินค้าในกลุ่มอุปโภค บริโภคแล้ว ยังรวมถึง สินค้าในกลุ่มพลังงานและวัสดุก่อสร้าง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง และเหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำไปผลิตเป็นยุทธภัณฑ์ได้
ทั้งนี้ หากทางกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่า ควรจะปิดด่านเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงวัตถุดิบที่เป็นยุทธปัจจัย กระทรวงพาณิชย์ไม่ขัดข้อง