นายนันทวัฒน์ กิจสกุลไพศาล เลขาธิการหอการค้า จ.สุรินทร์ ระบุว่า หลังจากเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ด่านการค้าชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ปิดลงอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการไทย อย่างหนักเนื่องจากไม่สามารถส่งสินค้าออกไปได้ โดยเฉพาะเชื้อเพลิง ไม่สามารถส่งไปยังกัมพูชาได้ ขณะที่ ผู้ประกอบการบางรายพยายามใช้ช่องทางด่านการค้าอื่น แต่มีภาระต้นทุนสูงขึ้น อีกทั้งการค้าชายแดนด่านช่องจอม ปกติจะมีทั้งชาวไทย ชาวกัมพูชา มาจับจ่ายทุกวัน ขณะนี้เงียบเหงา แม้ว่าผู้ประกอบการจะเปิดร้านแต่ไม่มีลูกค้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อวัน 15-20 ล้านบาท
ส่วนผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า ถ้ายืดเยื้อจะยิ่งเกิดความเสียหายมาก เนื่องจากด่านช่องจอมมีมูลค่าการค้าต่อปี 800 ล้านบาท จึงอยากเรียกร้องให้ทั้งสองรัฐบาลเร่งเจรจาหาข้อยุติ เพราะการแะทะกันมีแต่ความเสียหาย ทำให้มีผู้อพยพ ซึ่งหอการค้าจะหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน ในวันนี้
ส่วนผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า ถ้ายืดเยื้อจะยิ่งเกิดความเสียหายมาก เนื่องจากด่านช่องจอมมีมูลค่าการค้าต่อปี 800 ล้านบาท จึงอยากเรียกร้องให้ทั้งสองรัฐบาลเร่งเจรจาหาข้อยุติ เพราะการแะทะกันมีแต่ความเสียหาย ทำให้มีผู้อพยพ ซึ่งหอการค้าจะหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน ในวันนี้
