ชาวบ้าน ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลายคนที่หนีภัยมาอยู่ในศูนย์อพยพ เริ่มมีอาการเครียด หลังจากที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้านมานาน 4 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้จัดหน่วยแพทย์ให้คำปรึกษา ขณะเดียวกัน พื้นที่ ต.สายตะกู ยังคงมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัวที่ไม่ยอมอพยพ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน
ล่าสุด นายอำเภอบ้านกรวด ได้สั่งให้ผู้นำชุมชนอพยพชาวบ้านทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ห่างจากจุดปะทะตามแนวชายแดนด้านปราสาทตาควายเพียง 5 กิโลเมตร พร้อมกับได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ไปดูแลทรัพย์สินของชาวบ้านแทน โดยห้ามชาวบ้านเข้าพื้นที่เด็ดขาด เพราะยังมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้สงบ แต่ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงปราสาทพระวิหาร เริ่มกังวลว่าสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ อาจจะบานปลายมายังชายแดนด้านเขาพระวิหาร ทำให้หลายคนเตรียมความพร้อมเพื่อจะอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันที หากได้รับการแจ้งเตือน
ขณะที่ด่านผ่านแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังคงปิด 2 จุด คือที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ และจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนในจุดอื่นๆ ยังคงเปิดตามปกติ โดยที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชายังคงเดินทางผ่านแดนเข้ามาซื้อขายสินค้าในฝั่งไทย แต่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน และศุลกากรคลองใหญ่ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น
ล่าสุด นายอำเภอบ้านกรวด ได้สั่งให้ผู้นำชุมชนอพยพชาวบ้านทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ห่างจากจุดปะทะตามแนวชายแดนด้านปราสาทตาควายเพียง 5 กิโลเมตร พร้อมกับได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ไปดูแลทรัพย์สินของชาวบ้านแทน โดยห้ามชาวบ้านเข้าพื้นที่เด็ดขาด เพราะยังมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้สงบ แต่ชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงปราสาทพระวิหาร เริ่มกังวลว่าสถานการณ์ปะทะบริเวณชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ อาจจะบานปลายมายังชายแดนด้านเขาพระวิหาร ทำให้หลายคนเตรียมความพร้อมเพื่อจะอพยพออกจากพื้นที่ได้ทันที หากได้รับการแจ้งเตือน
ขณะที่ด่านผ่านแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังคงปิด 2 จุด คือที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ และจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนในจุดอื่นๆ ยังคงเปิดตามปกติ โดยที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชายังคงเดินทางผ่านแดนเข้ามาซื้อขายสินค้าในฝั่งไทย แต่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน และศุลกากรคลองใหญ่ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น
