เว็บไซต์หนังสือพิพม์พนมเปญโพสต์ รายงานวานนี้ (8 เม.ย.) หลัง กลุ่มพันธมิตรเพื่อต่อต้านการใช้กระสุนคลัสเตอร์บอมบ์ หรือ CMC (Cluster Munitions Coalition) ที่กล่าวหาว่า ประเทศไทยมีการปรับใช้อาวุธทางการทหาร ที่ถูกห้ามโดยสนธิสัญญาซึ่งลงนามนานาประเทศ เมื่อปี 2008 จากหลักฐานการตรวจสอบสถานที่ปะทะ พร้อมคำยืนยันจากทูตไทยประจำสหประชาชาติ ในกรุงเจนีวา ขณะที่ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลไทย กล่าวชี้แจงไปเมื่อวานนี้ว่า กองทัพไทย ใช้กระสุนระเบิดทวิประสงค์ หรือ Dual Purpose Improved Conventional Munitions (DPICM) ขนาด 155 มิลลิเมตร เพื่อตอบโต้การใช้ระเบิด BM - 21 จากฝ่ายที่โจมตีพลเรือนไทย ไม่ใช่คลัสเตอร์บอมบ์ และทหารจะไม่มีการพิจารณาใช้อาวุธคลัสเตอร์บอมบ์
อย่างไรก็ดี ทางพนมเปญโพสต์ ยังได้รายงานอ้างการตอบคำถามผ่านอีเมล์ของ นางลอรา ชีสแมน ผู้อำนวยการ CMC ว่า อาวุธที่ใช้ส่วนใหญ่ที่เห็นอย่างชัดเจนคือ กระสุนคลัสเตอร์บอมบ์ ซึ่งการใช้อาวุธดังกล่าว จะส่งผลกระทบและก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือน ในช่วงระหว่างและหลังการโจมตี
ด้าน นายเฮง รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา กล่าวว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กระสุนระเบิดทวิประสงค์ที่ไทยใช้นั้น เป็นหนึ่งในอาวุธประเภทคลัสเตอร์บอมบ์ ที่ถูกสั่งห้าม และจรวจ BM - 21 ที่กัมพูชาใช้ ก็เป็นอาวุธธรรมดา
อย่างไรก็ดี ทางพนมเปญโพสต์ ยังได้รายงานอ้างการตอบคำถามผ่านอีเมล์ของ นางลอรา ชีสแมน ผู้อำนวยการ CMC ว่า อาวุธที่ใช้ส่วนใหญ่ที่เห็นอย่างชัดเจนคือ กระสุนคลัสเตอร์บอมบ์ ซึ่งการใช้อาวุธดังกล่าว จะส่งผลกระทบและก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือน ในช่วงระหว่างและหลังการโจมตี
ด้าน นายเฮง รัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา กล่าวว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กระสุนระเบิดทวิประสงค์ที่ไทยใช้นั้น เป็นหนึ่งในอาวุธประเภทคลัสเตอร์บอมบ์ ที่ถูกสั่งห้าม และจรวจ BM - 21 ที่กัมพูชาใช้ ก็เป็นอาวุธธรรมดา