เมื่อวันศุกร์ ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,037.73 จุด เพิ่มขึ้น 3.43% จากสัปดาห์ก่อน หลังจากสถานการณ์ในญี่ปุ่นคลี่คลายลง ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 0.05% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 29,682.34 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 272.91 จุด เพิ่มขึ้น 1.32% จากสัปดาห์ก่อน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ในญี่ปุ่นคลี่คลายลง โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่และสลับกลุ่มจากแรงซื้อเก็งกำไร ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ในลิเบียอาจจะสามารถคลี่คลายลงได้รวดเร็ว นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังรักษาระดับสูง
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 1 เม.ย. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มคลายกังวลต่อสถานการณ์ในญี่ปุ่น แม้อาจมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะ ขณะที่ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปในการแก้ปัญหาหนี้ในยุโรป ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย รายได้ครัวเรือน (Personal Income) การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี ISM ภาคการผลิต ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,025 และ 1,010 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,050 และ 1,055 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ในญี่ปุ่นคลี่คลายลง โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่และสลับกลุ่มจากแรงซื้อเก็งกำไร ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าสถานการณ์ในลิเบียอาจจะสามารถคลี่คลายลงได้รวดเร็ว นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ยังรักษาระดับสูง
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 1 เม.ย. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนเริ่มคลายกังวลต่อสถานการณ์ในญี่ปุ่น แม้อาจมีแรงขายทำกำไรเป็นระยะ ขณะที่ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปในการแก้ปัญหาหนี้ในยุโรป ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย รายได้ครัวเรือน (Personal Income) การจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี ISM ภาคการผลิต ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,025 และ 1,010 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,050 และ 1,055 จุด ตามลำดับ