เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 1.12% จากสัปดาห์ก่อน หลังจากราคาน้ำมันคลายตัวลง ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 18.66% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 30,401.94 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาตินักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 267.90 จุด เพิ่มขึ้น 0.48% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,000 จุด จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคาร ซึ่งได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และจากการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนการประชุมนโยบายการเงินของทางการไทย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในวันศุกร์ จากความกังวลว่าเศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.9 ริกเตอร์
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีน่าจะปรับตัวลดลง โดยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น นอกจากนี้ คงจะต้องติดตาม สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ความคืบหน้าของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้งผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 994 และ 978 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,018 และ 1,024 จุด ตามลำดับ
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,000 จุด จากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคาร ซึ่งได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และจากการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนการประชุมนโยบายการเงินของทางการไทย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในวันศุกร์ จากความกังวลว่าเศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.9 ริกเตอร์
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีน่าจะปรับตัวลดลง โดยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น นอกจากนี้ คงจะต้องติดตาม สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ความคืบหน้าของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้งผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 994 และ 978 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,018 และ 1,024 จุด ตามลำดับ