พลังงานหารือ กบง.พรุ่งนี้ เกรงรัฐตรึงดีเซลกองทุนน้ำมันฯ ติดลบ

นายวีรพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า กระทรวงพลังงานค่อนข้างเป็นห่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง เกิดจากความกังวลของความรุนแรงทางการเมืองในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ล่าสุด น้ำมันดิบตลาดเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้นไปถึง 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แตะที่ 102.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันเอกชนภายในประเทศจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด 0.50-1 บาทต่อลิตร ยกเว้น ปตท.และบางจาก ที่ยังคงตรึงราคาน้ำมันไว้ โดยเฉพาะราคาดีเซล แม้ว่าค่าการตลาดน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำมาก อยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานขอรอดูราคาน้ำมันสำเร็จรูปปิดตลาดสิงคโปร์ค่ำวันนี้ก่อนจะตัดสินใจ คาดว่าอาจเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อเข้ามาดูแลราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีเงินสุทธิเหลืออยู่ที่ 21,000 ล้านบาท แต่เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายในการอุดหนุนราคาเอ็นจีวีและแอลพีจีแล้ว จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ เหลือเงินใช้ดูแลราคาน้ำมันเพียง 15,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเข้ามาดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ถึงปัจจุบัน มีการชดเชยราคาดีเซลไปแล้ว 8,500 ล้านบาท หรือ 4.50 บาทต่อลิตร ซึ่งแต่ละเดือนมีเงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันฯ ประมาณ 7,400 ล้านบาท ดังนั้นหากรัฐบาลยืนยันเดินหน้าใช้มาตรการตรึงราคาดีเซลต่อไป คาดว่าจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่มีเงินเหลือเลย ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน