นิวเคลียร์ยุ่นกดตลาดหุ้นไทย มีแรงเทขายล้นทะลัก โดยอาทิตย์ก่อนมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยลดลง 0.37% คาดสัปดาห์นี้ มีโอกาสปรับขึ้น
วันนี้ (21 มี.ค.) บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ดัชนี SET ปิดที่ 1,003.29 จุด ลดลง 0.37% จากสัปดาห์ก่อน จากความกังวลต่อวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 2.32% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 29,697.25 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ปิดที่ 269.36 จุด เพิ่มขึ้น 0.54% จากสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ หลังจากปรับตัวอย่างผันผวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นไทยก็ยังสามารถปิดบวกได้ จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี อาหารและวัสดุก่อสร้าง ที่คาดว่า จะได้รับประโยชน์จากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ ในญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากความกังวลต่อวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น จากข่าวการแพร่สู่ชั้นบรรยากาศของสารกัมมันตรังสี อีกทั้งยังมีสถานการณ์ความไม่สงบในกลุ่มประเทศอาหรับที่กดดันตลาดด้วยก็ตาม
สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ เชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยได้รับผลบวกจากหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐ อาทิเครื่องชี้วัดที่อยู่อาศัย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตลอดจนประเด็นการเมืองในประเทศ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 998 และ 977 จุด ขณะที่แนวต้าน คาดว่า จะอยู่ที่ 1,020 และ 1,052 จุด ตามลำดับ