นายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ ทาง อย.จะประชุมร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.)กรณีประเทศญี่ปุ่น ประกาศเตือนภัยสารกัมมันตภาพรังสี เพื่อหาแนวทางเฝ้าระวังมาตรฐานสินค้า และวัตถุดิบ ที่ต้องสงสัยปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสี ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 2531 ในอาหาร 3 กลุ่ม ที่อยู่ในรูปของซีเซี่ยม ประกอบด้วย นมสด ต้องไม่เกิน 7 เบคเคอเรลต่อลิตร นมผง ผลิตภัณฑ์นม และอาหารที่ใช้สำหรับทารก 21 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม และธัญพืช ไม่เกิน 6 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม
ซึ่ง อย.จะทำการสุ่มตรวจอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยใช้เครื่องมือจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่สามารถรายงานผลการตรวจได้อย่างรวดเร็วใน 3 ชั่วโมง หากพบสินค้าใดมีสารดังกล่าวเกินปริมาณที่กำหนด ผู้นำเข้าจะมีโทษปรับ 50,000 บาท
ทั้งนี้ อย.ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้นำเข้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นให้ชะลอการนำเข้าอาหารประเภท อาหารทะเลแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ นม และผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายทะเล ที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีแล้ว
สำหรับกรณีกระแสประชาชนตื่นกลัวสารกัมมันตภาพรังสีจนพากันไปหาซื้อไอโอดีนมารับประทานนั้น เป็นเรื่องอันตราย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า กัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลในประเทศญี่ปุ่นไม่มาถึงประเทศไทยแน่ ดังนั้นการรับประทานไอโดดีนในปริมาณมากทั้งที่ร่างกายไม่ได้สัมผัสกัมมันตภาพรังสีจะทำให้เกิดคอพอกเป็นพิษ ส่วนที่มีข่าวประชาชนแห่ซื้อเบตาดีนมาทาเพื่อป้องกันสารกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่ร่างกายนั้นไม่มีความจำเป็น เพราะเบตาดีนฆ่าได้แค่เชื้อโรคบางชนิด นอกจากไม่ป้องกันกัมมันตภาพรังสีแล้วยังทำให้ผิวแห้ง ลอกร่อนได้
ซึ่ง อย.จะทำการสุ่มตรวจอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยใช้เครื่องมือจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่สามารถรายงานผลการตรวจได้อย่างรวดเร็วใน 3 ชั่วโมง หากพบสินค้าใดมีสารดังกล่าวเกินปริมาณที่กำหนด ผู้นำเข้าจะมีโทษปรับ 50,000 บาท
ทั้งนี้ อย.ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้นำเข้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่นให้ชะลอการนำเข้าอาหารประเภท อาหารทะเลแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ นม และผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายทะเล ที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีแล้ว
สำหรับกรณีกระแสประชาชนตื่นกลัวสารกัมมันตภาพรังสีจนพากันไปหาซื้อไอโอดีนมารับประทานนั้น เป็นเรื่องอันตราย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า กัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลในประเทศญี่ปุ่นไม่มาถึงประเทศไทยแน่ ดังนั้นการรับประทานไอโดดีนในปริมาณมากทั้งที่ร่างกายไม่ได้สัมผัสกัมมันตภาพรังสีจะทำให้เกิดคอพอกเป็นพิษ ส่วนที่มีข่าวประชาชนแห่ซื้อเบตาดีนมาทาเพื่อป้องกันสารกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่ร่างกายนั้นไม่มีความจำเป็น เพราะเบตาดีนฆ่าได้แค่เชื้อโรคบางชนิด นอกจากไม่ป้องกันกัมมันตภาพรังสีแล้วยังทำให้ผิวแห้ง ลอกร่อนได้