ญี่ปุ่นประสบหายนะแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปีเมื่อวันศุกร์ (11) โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 8.9และมีศูนย์กลางใกล้กับชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 10 เมตรซัดถล่มหลายจังหวัดบนเกาะฮอนชู และกวาดทุกสิ่งทุกอย่างจนวินาศสันตะโร ขณะที่มีรายงานผู้เสียชิวิตแล้วหลายร้อยรายและคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก แรงสั่นสะเทือนยังส่งผลกระทบไปไกลถึงกรุงโตเกียว จนท่าอากาศยานแห่งหลักและระบบรถไฟใต้ดินในเมืองหลวง ตลอดจนรถไฟไฮสปีดชินคันเซนเกือบทั่วประเทศต้องระงับให้บริการ ทางด้านประเทศต่างๆ รอบแปซิฟิกต่างก็ประกาศเฝ้าระวังภัยสึนามิกันเต็มที่
เกิดธรณีพิบัติครั้งประวัติศาสตร์ขนาด 8.9 เขย่าญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ (11) ซึ่งเป็นระดับความรุนแรงสูงที่สุดเท่าที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ เคยวัดได้ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดมิยางิทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชูในมหาสมุทรแปซิฟิกเพียง 130 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจากธรณีพิโรธครั้งนี้ซึ่งรับรู้ไกลถึงกรุงโตเกียวยังก่อให้เกิดเกลียวคลื่นยักษ์สึนามิความสูงถึง 10 เมตร ซัดถล่มหลายจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ อันได้แก่ จังหวัดมิยางิ, ฟูกุชิมะ รวมทั้งตัวเมืองหลวงเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ขณะที่ทางการญี่ปุ่นออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินและเตือนให้จังหวัดชายฝั่งทางตอนเหนือคอยเฝ้าระวัง เนื่องจากหวั่นว่าอาจเกิดคลื่นสึนามิตามถล่มซ้ำอีก หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระลอกๆ นับครั้งไม่ถ้วน
โทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า พบศพผู้เสียชีวิตจากพสุธากัมปนาทครั้งนี้แล้ว200 -300 รายในจังหวัดฟูกุชิมะ, มิยางิ, โทชิงิและกรุงโตเกียว นอกจากนี้ยังผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก โดยมีรายงานด้วยว่าประชาชนราว 4.4 ล้านครัวเรือนทางตอนเหนือของประเทศไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ส่วนที่เมืองเซนได เมืองเอกของจังหวัดมิยางิ สื่อแดนอาทิตย์อุทัยรายงานว่า โรงแรมแห่งหนึ่งได้พังถล่มลงมา สร้างความหวั่นเกรงกันว่าจะมีประชาชนจำนวนมากถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้ซากปรักหักพังดังกล่าว ขณะที่ในกรุงโตเกียว ก็เกิดเหตุหลังคาของอาคารแห่งหนึ่งพังถล่มระหว่างพิธีสำเร็จการศึกษา ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมพิธีประมาณ 600 คน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทว่ายังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
เกิดธรณีพิบัติครั้งประวัติศาสตร์ขนาด 8.9 เขย่าญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ (11) ซึ่งเป็นระดับความรุนแรงสูงที่สุดเท่าที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ เคยวัดได้ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดมิยางิทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชูในมหาสมุทรแปซิฟิกเพียง 130 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจากธรณีพิโรธครั้งนี้ซึ่งรับรู้ไกลถึงกรุงโตเกียวยังก่อให้เกิดเกลียวคลื่นยักษ์สึนามิความสูงถึง 10 เมตร ซัดถล่มหลายจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ อันได้แก่ จังหวัดมิยางิ, ฟูกุชิมะ รวมทั้งตัวเมืองหลวงเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ขณะที่ทางการญี่ปุ่นออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินและเตือนให้จังหวัดชายฝั่งทางตอนเหนือคอยเฝ้าระวัง เนื่องจากหวั่นว่าอาจเกิดคลื่นสึนามิตามถล่มซ้ำอีก หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระลอกๆ นับครั้งไม่ถ้วน
โทรทัศน์เอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า พบศพผู้เสียชีวิตจากพสุธากัมปนาทครั้งนี้แล้ว200 -300 รายในจังหวัดฟูกุชิมะ, มิยางิ, โทชิงิและกรุงโตเกียว นอกจากนี้ยังผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก โดยมีรายงานด้วยว่าประชาชนราว 4.4 ล้านครัวเรือนทางตอนเหนือของประเทศไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ส่วนที่เมืองเซนได เมืองเอกของจังหวัดมิยางิ สื่อแดนอาทิตย์อุทัยรายงานว่า โรงแรมแห่งหนึ่งได้พังถล่มลงมา สร้างความหวั่นเกรงกันว่าจะมีประชาชนจำนวนมากถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้ซากปรักหักพังดังกล่าว ขณะที่ในกรุงโตเกียว ก็เกิดเหตุหลังคาของอาคารแห่งหนึ่งพังถล่มระหว่างพิธีสำเร็จการศึกษา ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมพิธีประมาณ 600 คน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทว่ายังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต