สถานการณ์ภัยแล้ว จ.ชัยภูมิ แม่น้ำชีเริ่มแห้งขอด วิกฤตหนักตลอดทั้งสาย ระยะทางกว่า 159 กิโลเมตร ชาวนาต้องแย่งกันสูบน้ำเข้านา เพื่อใช้เลี้ยงต้นข้าว กว่า 290,000 ที่กำลังยืนต้นตาย
ชลประทาน จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ต้นทุนน้ำในลำน้ำชี ทั้งหมดมีไม่เพียงพอตลอดฤดูแล้ง จึงเตือนเกษตรเลี่ยงขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังโดยเด็ดขาด และเตรียมพร้อมรับวิกฤตภัยแล้งในช่วงสงกรานต์ ซึ่งจะกระทบราษฎรและสัตว์เลี้ยงในหลายอำเภอ รวมทั้งพื้นที่ จ.ขอนแก่น
ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ต้นน้ำ ต่างเร่งสูบน้ำเพื่อกักเก็บ ทำให้ผู้ที่อยู่ปลายน้ำไม่มีน้ำทำนา บางคนต้องเดินตรวจคันนา เพื่อไม่ให้คนอื่นเปิดลักน้ำ
ส่วนเกษตรกร อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ร่วมกันขุดทางเดินน้ำธรรมชาติเข้าสู่แหล่งน้ำเก่าที่แห้งขอด เพื่อเร่งสูบน้ำเข้านาปรัง หลังระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มแห้ง ส่งผลให้ต้นข้าวเริ่มแห้งเฉา พร้อมกันนี้ยังปล่อยน้ำไปยังคลองส่งน้ำเก่าเพื่อให้เกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.พิมาย มีน้ำใช้ทำนา
ที่เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร เปิดประตูปล่อยน้ำให้เกษตรกรเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 14,000 ไร่ แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยพบว่า น้ำในเขื่อนน้ำอูนขณะนี้มีไม่ถึงร้อยละ 50 และคาดว่าปีนี้จะแล้งที่สุดในรอบ 50 ปี
ชลประทาน จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ต้นทุนน้ำในลำน้ำชี ทั้งหมดมีไม่เพียงพอตลอดฤดูแล้ง จึงเตือนเกษตรเลี่ยงขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังโดยเด็ดขาด และเตรียมพร้อมรับวิกฤตภัยแล้งในช่วงสงกรานต์ ซึ่งจะกระทบราษฎรและสัตว์เลี้ยงในหลายอำเภอ รวมทั้งพื้นที่ จ.ขอนแก่น
ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ต้นน้ำ ต่างเร่งสูบน้ำเพื่อกักเก็บ ทำให้ผู้ที่อยู่ปลายน้ำไม่มีน้ำทำนา บางคนต้องเดินตรวจคันนา เพื่อไม่ให้คนอื่นเปิดลักน้ำ
ส่วนเกษตรกร อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ร่วมกันขุดทางเดินน้ำธรรมชาติเข้าสู่แหล่งน้ำเก่าที่แห้งขอด เพื่อเร่งสูบน้ำเข้านาปรัง หลังระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มแห้ง ส่งผลให้ต้นข้าวเริ่มแห้งเฉา พร้อมกันนี้ยังปล่อยน้ำไปยังคลองส่งน้ำเก่าเพื่อให้เกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.พิมาย มีน้ำใช้ทำนา
ที่เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร เปิดประตูปล่อยน้ำให้เกษตรกรเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 14,000 ไร่ แก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยพบว่า น้ำในเขื่อนน้ำอูนขณะนี้มีไม่ถึงร้อยละ 50 และคาดว่าปีนี้จะแล้งที่สุดในรอบ 50 ปี
