นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า เป็นการแสดงท่าทีเชิงรุกในทางการทูตระหว่างประเทศ และนายกษิต มีความจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยท่าทีที่ชัดเจน เพื่อบ่งชี้ว่าประเทศไทยไม่ได้รุกราน แต่โดยหลักของรัฐบาลไทยคือต้องการสันติ ไม่อยากให้ความขัดแย้งบานปลาย พร้อมกับเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกประเทศที่มีชายแดนติดกัน ย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งนั้น
ส่วนกรณีที่ประเทศฝรั่งเศสเสนอเป็นตัวกลางในการเจรจานั้น เห็นว่า ขอให้ไทยและกัมพูชาเจรจากันเองก่อน รวมทั้งไทยก็เห็นผลจากการที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นตัวกลางเมื่อปี พ.ศ.2505 ที่ประเทศไทยเสียปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชาไปแล้ว เรื่องนี้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศสามารถชี้แจงนานาชาติได้
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการประกาศพื้นที่เขตมั่นคงพิเศษเป็นวันที่ 2 แต่ผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเครือข่ายประชาขนไทยหัวใจรักชาติ ยังคงปักหลักชุมนุมกันว่า ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ โดยตนเชื่อในศักยภาพของตำรวจ ทั้งนี้ รัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะใช้ความรุนแรง แต่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย
ส่วนกรณีที่ประเทศฝรั่งเศสเสนอเป็นตัวกลางในการเจรจานั้น เห็นว่า ขอให้ไทยและกัมพูชาเจรจากันเองก่อน รวมทั้งไทยก็เห็นผลจากการที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นตัวกลางเมื่อปี พ.ศ.2505 ที่ประเทศไทยเสียปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชาไปแล้ว เรื่องนี้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศสามารถชี้แจงนานาชาติได้
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการประกาศพื้นที่เขตมั่นคงพิเศษเป็นวันที่ 2 แต่ผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเครือข่ายประชาขนไทยหัวใจรักชาติ ยังคงปักหลักชุมนุมกันว่า ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ โดยตนเชื่อในศักยภาพของตำรวจ ทั้งนี้ รัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะใช้ความรุนแรง แต่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย
