นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมเดินทางไปประชุม คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 7 หรือ เจซี ระหว่างวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2554 ที่จังหวัดเสียมราฐ ประเทศ กัมพูชา ใน 2 ประเด็นหลัก ในการประชุมเกี่ยวกับความร่วมมือ ระหว่างไทย-กัมพูชา ในทุกเรื่อง รวมทั้งทบทวนเรื่องความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลุงทุน การท่องเที่ยวในกรอบของเจซี
ขณะเดียวกันจะหารือกับ นายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในเรื่องความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างไทย-กัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาและการขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งเป็นประเทศที่มีชายแดนอยู่ติดกัน ต้องเร่งที่จะแก้ไขปัญหาและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน รวมทั้งในกรอบที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนอีกด้วย
ส่วนกรณีวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ มีกรอบเจบีซีในการเจรจา และในระดับท้องถิ่น ทหารมีการหารือ โดยขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหลีกเลี่ยงประเด็นที่จะทำให้เพิ่มปัญหาบริเวณชายแดน ขณะที่ประเด็นที่ยังคงค้างคาจะใช้วิธีเจรจา ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้ไทยกรณีวัดแก้วสิขาคีรีสวาระนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องหารือต่อไป และไม่อยากให้ออกถ้อยแถลงนำไปสู่ความตึงเครียด และหลีกเลี่ยงการทำสงครามสื่อ พร้อมยืนยัน จะไม่มีการตอบโต้กลับ แต่เป็นการชี้แจงเรื่องเขตแดน ตามข้อเท็จจริงและกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เป็นประจำ และได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ หารือกับกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ถือเป็นภาระหน้าที่ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปประชุมเจซี จะไปพบกับ นายวีระ สมความคิด ที่เรือนจำเพรย์ซอว์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือถึงการช่วยเหลือต่อไป
ขณะเดียวกันจะหารือกับ นายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ในเรื่องความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างไทย-กัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาและการขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งเป็นประเทศที่มีชายแดนอยู่ติดกัน ต้องเร่งที่จะแก้ไขปัญหาและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน รวมทั้งในกรอบที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนอีกด้วย
ส่วนกรณีวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ มีกรอบเจบีซีในการเจรจา และในระดับท้องถิ่น ทหารมีการหารือ โดยขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหลีกเลี่ยงประเด็นที่จะทำให้เพิ่มปัญหาบริเวณชายแดน ขณะที่ประเด็นที่ยังคงค้างคาจะใช้วิธีเจรจา ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกแถลงการณ์ตอบโต้ไทยกรณีวัดแก้วสิขาคีรีสวาระนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องหารือต่อไป และไม่อยากให้ออกถ้อยแถลงนำไปสู่ความตึงเครียด และหลีกเลี่ยงการทำสงครามสื่อ พร้อมยืนยัน จะไม่มีการตอบโต้กลับ แต่เป็นการชี้แจงเรื่องเขตแดน ตามข้อเท็จจริงและกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะที่มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เป็นประจำ และได้สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ หารือกับกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว ถือเป็นภาระหน้าที่ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไปประชุมเจซี จะไปพบกับ นายวีระ สมความคิด ที่เรือนจำเพรย์ซอว์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือถึงการช่วยเหลือต่อไป
