นายศุภชัย บานพับทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร หรือ คชก. ในการช่วยเหลือเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาผลผลิตผลไม้ในภาคใต้และภาคตะวันออกล้นตลาดในปีที่ผ่านมา ว่า ผลการทำงานเป็นที่น่าพอใจ เกษตรกรมีเรื่องร้องเรียนน้อย เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลไม้มีจำนวนลดลง โดยผลผลิตในภาคตะวันออก มีจำนวนทั้งหมด 752,532 ตัน ภาคใต้ 700,296 ตัน จึงทำให้ผลไม้มีราคาสูงขึ้นและการซื้อขายเป็นไปตามกลไกของตลาด ดังนั้นเงินช่วยเหลือของ คชก. ทั้งเงินกู้และเงินจ่ายขาด จึงมีตัวเลขที่ไม่สูง โดยภาคใต้ได้รับเงินช่วยเหลือจาก คชก.จำนวน 270.66 ล้านบาท จ่ายขาดให้เกษตรกรเพียง 23.60 ล้านบาท เกษตรกรกู้ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส) เพียง 2.7 ล้านบาท ขณะที่ภาคตะวันออกได้รับเงินช่วยเหลือจาก คชก.ทั้งหมด 230.72 ล้านบาท จ่ายขาดให้เกษตรกรเพียง 91.42 ล้านบาท และเกษตรกรกู้ผ่าน ธ.ก.ส.เพียง 29.4 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2554 คชก.จึงพิจารณาปรับลดจำนวนเงินช่วยเหลือเกษตรกรลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคอื่นๆ ได้มีความเห็นให้แต่ละจังหวัดนำนักวิชาการลงพื้นที่สำรวจดอกของผลไม้ที่กำลังออกในช่วงนี้ เพื่อประเมินว่าผลผลิตที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดมีจำนวนเท่าใด เพื่อให้ คชก.เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป
นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคอื่นๆ ได้มีความเห็นให้แต่ละจังหวัดนำนักวิชาการลงพื้นที่สำรวจดอกของผลไม้ที่กำลังออกในช่วงนี้ เพื่อประเมินว่าผลผลิตที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดมีจำนวนเท่าใด เพื่อให้ คชก.เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป