นายอภิชาติ สุรินทร์คำ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมอันเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทั่วทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เริ่มคลี่คลายแล้ว เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มลดลง ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเป็นพิเศษเพิ่มเติมอีก 1 วัน ได้แก่ จ.ตรัง พัทลุง และยะลา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยช่วยกันสังเกตความเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝน ทางน้ำไหลและสภาพดินที่อาจอุ้มน้ำมากเกินไป เพื่อความปลอดภัย หากพบความผิดปกติให้รีบแจ้งผู้นำชุมชนเพื่อจะได้ดำเนินการตามแผนความปลอดภัยและแผนอพยพที่ได้วางไว้เรียบร้อยแล้ว
นายอภิชาติ กล่าวด้วยว่า กรณีอุทกภัยหนักที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ภาคใต้ช่วงนี้ เกิดจากภัยธรรมชาติประกอบกับการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่โดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติ ทั้งการสร้างบ้าน ขยายถนน การวางระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ทำลายร่องระบายน้ำธรรมชาติ การทำลายป่าจนหน้าดินไม่สามารถอุ้มน้ำได้ ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของหน้าดินได้ง่าย ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพหน้าดินให้สามารถรองรับน้ำฝนได้ 100 มิลลิเมตรต่อวัน
นายอภิชาติ กล่าวด้วยว่า กรณีอุทกภัยหนักที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ภาคใต้ช่วงนี้ เกิดจากภัยธรรมชาติประกอบกับการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่โดยไม่คำนึงถึงธรรมชาติ ทั้งการสร้างบ้าน ขยายถนน การวางระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ทำลายร่องระบายน้ำธรรมชาติ การทำลายป่าจนหน้าดินไม่สามารถอุ้มน้ำได้ ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของหน้าดินได้ง่าย ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพหน้าดินให้สามารถรองรับน้ำฝนได้ 100 มิลลิเมตรต่อวัน