บรรยากาศที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง เมื่อผู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เดินทางกลับทั้งหมดแล้ว แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังมีความกังวลว่า สถานการณ์ชายแดนยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะวันนี้ ที่ศาลกัมพูชามีการไต่สวน 7 คนไทยที่ถูกจับกุมนัดแรก
ที่ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่า การรักษาความปลอดภัยภายในชุมชน ผ่อนคลายลงกว่า 2 วันที่ผ่านมา โดยมีเพียงอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประจำจุดต่างๆ ขณะที่ถนนทางเข้าบ้านหนองจานที่มุ่งสู่ถนนศรีเพ็ญ ยังเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ หรือบันทึกภาพเช่นเดิม
แม้เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจะสลายการชุมนุมแล้ว แต่ชาว ต.โนนหมากมุ่น ยังคงกังวลว่าเหตุการณ์ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว โดยเฉพาะในวันนี้ที่ศาลกัมพูชานัดไต่สวนวันแรก จะทำให้สถานการณ์ชายแดนยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าทางการยังคงมาตรการเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชายแดนของชาวบ้านทั้ง 2 ประเทศต่อไป
ด้านผู้ชุมนุมบางส่วนที่ยังพักค้างคืนที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ได้เก็บสัมภาระเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมดแล้ว โดยผู้ชุมนุมเดินทางออกจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ก่อนเวลาที่นัดหมายไว้ 09.00 น. แต่ขณะนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อดูแลความเรียบร้อยอยู่บริเวณโดยรอบ
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายทศพล แก้วทิมา หนึ่งในแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า วันนี้ผู้ชุมนุมจะทยอยไปรวมตัวกันที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอฟังการไต่สวนของศาลกัมพูชา ก่อนจะประชุมแกนนำเพื่อกำหนดท่าทีเคลื่อนไหวต่อไป แต่ยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิม คือ ให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการปักปันเขตแดน และยกเลิกเอ็มโอยู 43
ที่ ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่า การรักษาความปลอดภัยภายในชุมชน ผ่อนคลายลงกว่า 2 วันที่ผ่านมา โดยมีเพียงอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประจำจุดต่างๆ ขณะที่ถนนทางเข้าบ้านหนองจานที่มุ่งสู่ถนนศรีเพ็ญ ยังเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่ หรือบันทึกภาพเช่นเดิม
แม้เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติจะสลายการชุมนุมแล้ว แต่ชาว ต.โนนหมากมุ่น ยังคงกังวลว่าเหตุการณ์ 7 คนไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว โดยเฉพาะในวันนี้ที่ศาลกัมพูชานัดไต่สวนวันแรก จะทำให้สถานการณ์ชายแดนยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าทางการยังคงมาตรการเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชายแดนของชาวบ้านทั้ง 2 ประเทศต่อไป
ด้านผู้ชุมนุมบางส่วนที่ยังพักค้างคืนที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ได้เก็บสัมภาระเดินทางกลับไปรวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมดแล้ว โดยผู้ชุมนุมเดินทางออกจากเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ก่อนเวลาที่นัดหมายไว้ 09.00 น. แต่ขณะนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำการ เพื่อดูแลความเรียบร้อยอยู่บริเวณโดยรอบ
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายทศพล แก้วทิมา หนึ่งในแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า วันนี้ผู้ชุมนุมจะทยอยไปรวมตัวกันที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรอฟังการไต่สวนของศาลกัมพูชา ก่อนจะประชุมแกนนำเพื่อกำหนดท่าทีเคลื่อนไหวต่อไป แต่ยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิม คือ ให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการปักปันเขตแดน และยกเลิกเอ็มโอยู 43
