xs
xsm
sm
md
lg

แถลงการณ์พิเศษนายกรัฐมนตรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รวมการฯ

พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ หลังจากที่มีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะมีการชุมนุมใหญ่อย่างน้อยๆ ก็ 3 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีครับ หลายฝ่ายมีความวิตกกังวลกับอนาคตความไม่แน่นอนของบ้านเมือง หลายคนสัมผัสความเดือดร้อนด้วยตัวเองจากปัญหาการจราจร จากปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นในทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน แน่นอนผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุน ก็มีเป้าหมายในการเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้หลายครั้งนั้นสถานการณ์ของบ้านเมือง หรือบรรยากาศของบ้านเมือง จะมีความรู้สึกตึงเครียด
ผมอยากจะเรียนกับพี่น้องประชาชนว่า ผมและรัฐบาล ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการที่จะดูแลให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินการต่อไปได้ ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ความเป็นปกติและความสงบสุข โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพ เสียงสะท้อนจากทุกฝ่าย
2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอนครับ เสียงที่พี่น้องประชาชนได้ยินอาจจะบ่อยที่สุด ก็คือเสียงของผู้ชุมนุมจากรายงานข่าวสารต่างๆ ผมก็ต้องขอถือโอกาสนี้เรียนเช่นเดียวกันว่า มีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมาก ซึ่งมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ผมขอบคุณสำหรับพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ให้กำลังใจผม รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เสนอแง่มุม ความคิดที่อาจจะแตกต่างไปจากผู้ชุมนุม ผมถึงเรียนว่าการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศนั้น เราจะฟังเพียงคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องฟังเสียงสะท้อนของคนทั้งประเทศ และยึดผลประโยชน์ของส่วนรวม ของคนทั้งประเทศเป็นสำคัญ
ในบรรดาผู้คนซึ่งมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีความรู้สึกหลากหลายเช่นเดียวกัน หลายคนมีความต้องการที่จะเห็นความเด็ดขาด อยากจะให้สถานการณ์ต่างๆ จบลงได้รวดเร็ว หลายคนรู้สึกอึดอัด มีความเดือดร้อน ก็ถ่ายทอดมา และคาดหวังว่ารัฐบาลจะสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที ผมขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า ผมและรัฐบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ มีความปรารถนาเช่นเดียวกับพี่น้องจำนวนมากที่อยากจะเห็นบ้านเมืองสงบสุข ขณะเดียวกัน เราต้องยอมรับว่าความคิดเห็นที่แตกต่างยังมีอยู่ ที่สำคัญที่สุด ในฐานะที่ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผมมีหน้าที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งประชาชนทั่วไป และผู้ชุมนุมด้วย
ผมยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะบังคับใช้กฎหมาย ให้กฎหมายนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ขณะเดียวกันก็อยากจะเรียนว่า การบังคับใช้กฎหมายก็เพื่อประโยชน์ในการนำความสงบสุข หากการใช้บังคับกฎหมายทำไปในลักษณะที่ไม่รอบคอบ แทนที่จะได้ผลอย่างที่เราต้องการ ก็จะทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายออกไป ซึ่งในที่สุดก็ไม่สมประโยชน์กับฝ่ายใดทั้งสิ้น มีแต่ประเทศชาติจะต้องสูญเสีย และที่สำคัญก็คือว่า อาจจะเป็นการลุกลามบานปลายไปสู่ความรุนแรง นั่นคือความสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไรก็ตาม เราคงไม่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
ดังนั้น การชุมนุม การเคลื่อนไหวทางการเมือง และเหตุการณ์ต่างๆ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอยากให้ข้อคิดกับทุกฝ่าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีลักษณะของการคู่ขนาน การชุมนุมเคลื่อนไหวในลักษณะของการเมือง ซึ่งจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ก็จะดำเนินไปวันต่อวัน หรือบางครั้งในบางช่วงบางวันอาจจะมีหลายกิจกรรม แต่ขณะเดียวกันเราก็จะเห็นว่ามีการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น มีการขว้างระเบิด ยิงระเบิด ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือเจ้าหน้าที่ ต้องได้รับบาดเจ็บ อย่างนี้เป็นต้น
สถานการณ์เช่นนี้ที่เป็นตัวที่ทำให้การทำงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่จะต้องมีหลักยึดที่สำคัญ หลักที่ว่านั้นก็คือว่า เราจะดำเนินการเพื่อให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินได้ สัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมคณะรัฐมนตรี การประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องเกิดขึ้น รัฐบาลถูกตำหนิจากบางฝ่ายว่าใช้มาตรการที่เกินเลยไป แต่ในที่สุดผลที่ออกมาก็คือการเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ การประชุม ครม.ก็สามารถหยิบยกปัญหาที่เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของภัยแล้ง จะเป็นเรื่องของเพลี้ย จะเป็นเรื่องอื่นๆ เข้ามาพิจารณาแล้วก็มีการเดินหน้าแก้ไขต่อไป การประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็มีกฎหมายสำคัญๆ ที่สามารถดำเนินการให้ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรได้ เช่น กฎหมายสภาเกษตร ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่พี่น้องเกษตรกรจะได้มีกลไกนี้ ซึ่งก็จะต้องผ่านเข้าสู่กระบวนการของรัฐสภาต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อใดก็ตามซึ่งเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้นมีความสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะเกิดการปะทะกัน การเผชิญหน้ากัน การทำให้เจ้าหน้าที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาชน รัฐบาล โดยผม ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนว่า จะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น ผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ เป็นพิเศษ เพราะได้สนองแนวทางที่ได้กำหนดไว้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือทหาร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและทั้งในปริมณฑลนั้น เราได้กำหนดบทบาทหน้าที่ก็คือ การดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งผู้ชุมนุมด้วย และบุคคลเหล่านี้ไม่ได้มีภารกิจในการที่จะเป็นปฏิปักษ์กับใคร
เพราะฉะนั้น เมื่อวานนี้ เมื่อเกิดความรู้สึกในหมู่ผู้ชุมนุม ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจที่ผิดที่คลาดเคลื่อนว่า การที่เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมนั้น ทำให้เขาเกิดความอึดอัด อาจจะมีการนำไปพูดในลักษณะที่ว่า การที่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่นั้น เป็นเรื่องของการที่จะมีการไปล้อมเพื่อเตรียมที่จะเข้าปราบปรามหรือสลายการชุมนุม ความตึงเครียดก็เกิดขึ้น แนวทางซึ่งผม ท่านรองนายกฯ สุเทพ ศอ.รส. ผู้นำเหล่าทัพ เราเห็นตรงกันก็คือว่า คนของเราที่ไปอยู่ที่นั่นไปเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน เมื่อเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนขึ้น นำไปสู่ความตึงเครียด เราก็หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาการปะทะกัน 7-8 จุดที่ว่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่สาธารณะครับ เมื่อประชาชนผู้ชุมนุมเห็นว่าทำให้เขาเกิดความไม่สบายใจ เราก็เพียงแต่ปรับแผน สลับพื้นที่ สลับกำลัง เพื่อให้บุคลากรทั้งในกองทัพและทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถที่จะดูแล ปฏิบัติภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ ได้ โดยไม่ไปเผชิญหน้า หรือทำให้เกิดการปะทะกัน สุดท้ายเหตุการณ์ก็คลี่คลายได้
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อถึงจุดที่ผู้ชุมนุมได้ไปดำเนินการที่จะเรียกร้องให้มีการถอนเจ้าหน้าที่ออกจากทำเนียบรัฐบาล ตรงนี้จะเป็นกรณีที่แตกต่าง เพราะกรณีเช่นว่านั้นไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ แต่เป็นสถานที่ราชการ สุดท้ายเราจึงจำเป็นต้องยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ดูแล เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกหรือปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล จำเป็นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้น แต่ถ้าเป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น ถนนรอบๆ ก็สามารถที่จะมีการปรับเปลี่ยนได้ สุดท้ายเราก็สามารถที่จะปฏิบัติตามเป้าหมายและภารกิจของเราได้ ผู้ชุมนุมก็ได้มีการกลับไปชุมนุมที่ผ่านฟ้าฯ และคลี่คลายเหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆ ได้
เพราะฉะนั้นผมอยากจะให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศมีความเข้าอกเข้าใจว่าแนวการปฏิบัติในเรื่องการบริหารสถานการณ์และการชุมนุมนั้นเป็นไปตามนี้ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ปฏิบัติงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย ด้วยความยากลำบาก และหลายครั้งก็อาจจะมีความรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะสามารถที่จะดำเนินการในลักษณะเช่นว่า และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาการปะทะกันได้อย่างไร ผมย้ำอีกครั้งครับ เจ้าหน้าที่ทุกคนขณะนี้ปฏิบัติภารกิจเพื่อรัฐ นั่นคือดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของผู้ชุมนุม พร้อมๆ กับยืนยันการเดินหน้าการใช้อำนาจในการบริหาร และอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความฝักใฝ่ในทางการเมือง และผมได้ย้ำหลายครั้งว่า บุคลากรเหล่านี้ไม่ต้องฝักใฝ่ทางการเมือง ขอให้ปฏิบัติภารกิจที่เป็นภารกิจหลักของหน่วยงาน ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ให้มีประสิทธิภาพและดีที่สุด
เช่นเดียวกัน แม้ผู้ชุมนุมจะประกาศว่าตัวผม หรือท่านรองนายกฯ สุเทพ เป็นศัตรูหรือเป็นปฏิปักษ์ ผมก็ขอเรียนยืนยันว่า ผมและท่านรองฯ สุเทพ ไม่ถือเอาผู้ชุมนุมเป็นศัตรูหรือปฏิปักษ์ของพวกผม ตรงกันข้ามครับ ทางออกของปัญหาของการชุมนุมที่เป็นข้อเรียกร้องทางการเมืองนั้น ผมก็ยืนยันมาโดยตลอดว่า สามารถที่จะใช้กระบวนการทางการเมืองแก้ไขได้ วันนี้เหตุการณ์จะชัดเจนยิ่งขึ้นครับ เพราะขณะนี้พรรคฝ่ายค้านกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ได้ดำเนินการเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มเดียวกันแล้ว ซึ่งก็ทำให้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่าช่องทางของการใช้เวทีของรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ก็คงจะมีความยากลำบากมากขึ้นในการแก้ไขปัญหา และก็ทำให้ข้อเรียกร้องที่เป็นข้อเรียกร้องทางการเมืองโดยตรงในขณะนี้ จึงมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยจำนวนมากเช่นเดียวกัน เพราะมองว่าการเรียกร้องในเรื่องการยุบสภา ซึ่งเดิมนั้นเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มคนซึ่งเคลื่อนไหวอยู่นอกสภา ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนอย่างที่ได้ปรากฏขึ้นในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องที่ทำให้น้ำหนักของเรื่องของการเรียกร้องในเรื่องนี้ดูจะผิดเพี้ยนไป และทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการพูดคุยกันมากยิ่งขึ้น มากกว่าที่จะเป็นการยื่นคำขาดหรือยื่นเงื่อนไข
การพูดคุย การเจรจานั้น ผมได้พูดมาโดยตลอดว่า ผมไม่เคยปฏิเสธ แม้แต่เงื่อนไขของการยุบสภา และผมขอเรียนว่า ในความเป็นจริงแล้วก็มีอีกหลายกลุ่มซึ่งพยายามที่จะเป็นตัวกลางในการเชื่อม เพื่อให้เกิดการพูดคุยกันระหว่างผม หรือรัฐบาล กับผู้ชุมนุม
จนถึงวินาทีนี้ ก็ยังไม่ได้มีการล้มเลิกกระบวนการเหล่านี้ และความจริงก่อนหน้านี้ แม้กระทั่งระหว่างเหตุการณ์เมื่อวานนี้ก็ยังมีการติดต่อประสานงานกัน สิ่งที่ผมได้บอกกล่าวไปก็คือว่า หากจะมีการพูดคุยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการยุบสภานั้น ผมไม่ขัดข้อง แต่ต้องเกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่การเคลื่อนไหวหรือการชุมนุมนั้น ไม่ใช่เป็นลักษณะของการข่มขู่ คุกคาม กดดัน ผมจำได้ครับเมื่อวันที่ผมเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน มีกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งปัจจุบันไปตั้งพรรคการเมืองอีกพรรคการเมืองหนึ่งแล้ว เขาเคยเรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้น หรือผู้นำรัฐบาลนั้นลาออก ผมเองเป็นคนพูดครับว่า ข้อเสนอในเรื่องของการลาออกนั้นคงจะเป็นเรื่องยากที่จะให้ตัวนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นพิจารณา เพราะถ้าหากถูกมองว่าตัดสินใจภายใต้การกดดันในการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้
วันนี้ก็เช่นเดยวกันครับ หากผู้ชุมนุมคำนึงถึงเรื่องของประชาธิปไตยในระยะยาว รัฐบาลที่มาตามกระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการรัฐธรรมนูญ กระบวนการของรัฐสภา ซึ่งผมยืนยันว่ารัฐบาลนี้มาตามกระบวนการเหล่านี้ เช่นเดียวกับหลายรัฐบาลในโลก หรือแม้กระทั่งรัฐบาลในอดีตในประเทศไทย ซึ่งบางครั้งจะตั้งขึ้นเป็นรัฐบาลผสม โดยพรรคการเมืองซึ่งสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ ไม่จำเป็นต้องพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับ 1 ด้วยซ้ำไป พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นพรรคอันดับ 1 ครับ แต่ไม่ได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นกติกาซึ่งเรายอมรับ เมื่อไม่มีพรรคการเมืองใดมีเสียงข้างมากในสภา
กรณีที่จะมีการไปดำเนินการตามเงื่อนไขภายใต้การกดดันเช่นนี้ จะเป็นปัญหาสำหรับการรักษาหลักของระบอบประชาธิปไตยในอนาคต ผมจึงได้บอกผ่านผู้ประสานงานไปยังแกนนำผู้ชุมนุมเสมอว่า หากจะมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ขอให้การชุมนุมหรือการเคลื่อนไหวนั้นไม่มีลักษณะในการที่จะเป็นการข่มขู่ คุกคาม หรือกดดัน เพราะฉะนั้นวันนี้ในช่วงสายที่ผู้ชุมนุมประกาศว่าจะมีการส่งผู้แทนเข้ามาที่ราบ 11 เพื่อจะมาพบกับผม โดยนำผู้ชุมนุมจำนวนมากมาชุมนุมอยู่ข้างหน้าราบ 11 ซึ่งจะทำให้เกิดเหตุการณ์ของการเผชิญหน้า ความตึงเครียด ผมก็ขอเรียนว่ามันคงเป็นบรรยากาศที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดการเจรจา ไม่มีใครหรอกครับที่อยากให้มีการเจรจาภายใต้ลักษณะซึ่งบรรยากาศรายล้อมนั้น ฝ่ายหนึ่งอาจจะบอกว่ามีกองเชียร์เป็นหมื่น หรืออาจจะเป็นแสน อีกฝ่ายหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องรักษาที่ตั้ง ที่มั่น เป็นหน่วยราชการ เป็นหน่วยทหาร และมีอาวุธ นั่นไม่ใช่แนวทางที่จะนำไปสู่บรรยากาศของการพูดคุยที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหา และนำไปสู่ความสงบสุขได้ ผมจึงขอเรียนว่า เมื่อยังมีการแสดงเจตนาในการที่พูดคุยกัน เราทำบรรยากาศของการพูดคุยให้มันเหมาะสม ในลักษณะที่จะนำไปสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง ซึ่งจะผ่านกระบวนการการยุบสภาหรือไม่ก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องที่จะพูดคุยกันบนโต๊ะได้
ผมขอเรียนว่า ถ้ามีการเคลื่อนผู้ชุมนุมมาที่ราบ 11 ผมคงไม่สามารถที่จะเจรจาได้ และก็จะไม่อยู่เจรจา แต่ยังยืนยันที่จะเปิดช่องทางการพูดคุยกัน เมื่อกลับไปสู่เงื่อนไขที่ผมได้พูดมาโดยตลอดว่า การชุมนุมเคลื่อนไหวนั้นจะต้องไม่มีลักษณะของการข่มขู่ คุกคาม กดดัน ผมยืนยันว่าการปฏิเสธที่จะเจรจาภายใต้บรรยากาศอย่างนี้ ไม่ใช่การปฏิเสธที่จะหาทางออกกัน แต่เป็นการวางแนวทางที่ดีของการที่จะมีการพูดคุยแบบสร้างสรรค์และนำไปสู่ความสงบสุขได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมจะไม่ลดความพยายามในการสื่อสารเพื่อให้แกนนำผู้ชุมนุมได้เกิดความเข้าใจว่า ภายใต้เงื่อนไขบรรยากาศใดที่เราจะได้มีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก
ส่วนการเคลื่อนไหว หรือเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องคู่ขนาน ที่เป็นความรุนแรงนั้น ก็ขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างแข็งขัน ในบางกรณีการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งออกหมายจับได้แล้ว และก็จะไม่ลดละในความพยายาม รวมทั้งการกระทำใดๆ ที่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่มีการละเว้นในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
นี่คือภาพรวมที่ผมอยากจะขอถือโอกาสเรียนกับพี่น้องประชาชน หลังจากนี้ในส่วนของ ศอ.รส.จะได้มาทำการชี้แจงเกี่ยวข้องกับการที่จะรับกับสถานการณ์การชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นที่ราบ 11 ในวันนี้ ซึ่งจะได้มีการชี้แจงทั้งข้อกฎหมาย ขั้นตอนต่างๆ ให้เกิดความเข้าใจที่ดี เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นในเรื่องของข่าวสารได้
สุดท้ายก่อนที่ผมจะให้ท่านรองนายกฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงอธิบายในรายละเอียดนั้น ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทุกคนครับว่าผมรับผิดชอบกับสถานการณ์บ้านเมืองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ผมก็จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา มีการประสานงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับท่านรองนายกรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ ตำรวจ รวมไปถึงฝ่ายการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายอื่นๆ เพื่อนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ได้ ผมจะมีภารกิจอยู่ที่ใด็ตาม หรือจะติดตามสถานการณ์อยู่ที่ใดก็ตาม ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนครับว่า ผมไม่ทิ้งพี่น้องประชาชน ผมเป็นนัการเมืองที่มาจากประชาชน ไม่เคยมาด้วยวิธีการอื่น ผมทราบดีถึงอำนาจหน้าที่และที่สำคัญคือความรับผิดชอบที่ผมต้องมีต่อประชาชน บ้านเมือง สถาบันหลักของชาติ และระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขอให้พี่น้องสบายใจครับว่าผมนั้นจะทำทุกวิธีทาง ทุ่มเทเต็มความสามารถ ด้วยความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของบ้านเมือง ซึ่งเข้าใจหลักการทั้งหลายที่ผมได้กราบเรียนกับพี่น้องประชาชนในวันนี้ เพื่อที่จะเร่งเดินหน้าในการทำให้ประเทศของเรา สังคมของเรา ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ผมขอใช้เวลาเพียงเท่านี้ในวันนี้ครับ และจากนี้ไปจะให้ท่านรองนายกฯ และ ศอ.รส. ได้ชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ เพื่อบริหารสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีสำหรับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น