นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์ปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) ว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอสนับสนุน แนวทางการทำงานของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ในการเปิดช่องเจรจาเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยยึดหลักส่วนรวมเป็นสำคัญ และการดูแลความสงบเรียบร้อยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติงานท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ซึ่งพรรคได้ประเมินถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมไว้ 3 แนวทาง 1.การใช้เวทีชุมนุมถ่ายถอดผ่านสื่อในเครือข่ายของ นปช.ที่เริ่มใช้ข้อมูลเป็นเท็จบิดเบือน มีการนำคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีที่มีการตัดต่อ เผยแพร่ไปยังเครือข่ายสื่อทั่วประเทศ ถือว่าเป็นการปลุกระดมที่สร้างความเข้าใจผิด และนำไปสู่ความรุนแรงได้ ทั้งที่คลิปดังกล่าวมีการพิสูจน์แล้วว่ามีการตัดต่ออย่างแน่นอน ถือว่าการกระทำดังกล่าวมีเจตนาชัดเจนที่ต้องการให้ประชาชนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์มีเจตนาใช้ความรุนแรง รวมถึงการวิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ที่พยายามสร้างความเข้าใจผิดในการปล่อยคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี เพื่อหวังผลทางการเมือง
2. การค้นพบการเตรียมการกระทำผิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับตรวจพบผลิตอาวุธสงคราม ต่อสถานที่ราชการเพื่อสร้างความหวาดกลัว และ 3.การเคลื่อนไหวโดยการปลุกระดม ชักจูงให้คนทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือกระบวนการประชาธิปไตย โดยพาดพิงถึงสถาบันหลายส่วนที่รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งการขับเคลื่อนยังมีการพูดถึงสงครามประชาชน หรือรัฐไทยใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างปฏิกิริยาในวงกว้าง และมีความกังวลว่าสิ่งต่างๆ นั้นสอดรับการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ทั้ง 3 แนวทางนั้นพรรควิตกกังวลว่าอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรง สุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าต่อการสร้างความวุ่นวาย ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้กำลังหรือความรุนแรงกับผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นฝ่ายแรก แต่สิ่งที่น่าห่วงใยเป็นพิเศษ คือการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หวังผลจากการใช้กระบวนการบิดเบือนข้อมูล โดยการปลุกระดมโดยใช้คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีมาสร้างความขัดแย้ง
2. การค้นพบการเตรียมการกระทำผิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับตรวจพบผลิตอาวุธสงคราม ต่อสถานที่ราชการเพื่อสร้างความหวาดกลัว และ 3.การเคลื่อนไหวโดยการปลุกระดม ชักจูงให้คนทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือกระบวนการประชาธิปไตย โดยพาดพิงถึงสถาบันหลายส่วนที่รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งการขับเคลื่อนยังมีการพูดถึงสงครามประชาชน หรือรัฐไทยใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างปฏิกิริยาในวงกว้าง และมีความกังวลว่าสิ่งต่างๆ นั้นสอดรับการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ทั้ง 3 แนวทางนั้นพรรควิตกกังวลว่าอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรง สุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าต่อการสร้างความวุ่นวาย ซึ่งอาจนำไปสู่ความรุนแรงทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่ใช้กำลังหรือความรุนแรงกับผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นฝ่ายแรก แต่สิ่งที่น่าห่วงใยเป็นพิเศษ คือการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หวังผลจากการใช้กระบวนการบิดเบือนข้อมูล โดยการปลุกระดมโดยใช้คลิปเสียงนายกรัฐมนตรีมาสร้างความขัดแย้ง