นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์ข้าวในประเทศขณะนี้ ผลผลิตข้าวนาปีได้ออกสู่ตลาดกว่า 22 ล้านตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 97.47 ของผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมด และผลผลิตข้าวนาปรังจะเริ่มออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งจากการหารือร่วมกันระหว่าง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร เห็นควรให้ระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลในปริมาณที่เหมาะสม และสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ผลผลิตข้าวนาปีได้ออกสู่ตลาด รวมทั้งเกษตรกรส่วนใหญ่ได้ขายข้าวเปลือกหมดแล้วจึงไม่มีผลกระทบต่อราคาผลผลิตที่เกษตรกรขายได้ อีกทั้งยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายการเก็บรักษาข้าวของรัฐบาล ซึ่งเห็นชอบให้ระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในปริมาณ 500,000 ตัน ได้แก่ ข้าวหอมปทุมธานี 150,000 ตันและ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ 350,000 ตัน โดยจะมีการเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ และจะประกาศรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน พร้อมทั้งเปิดซองเสนอราคาซื้อในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ส่วนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสารจะเจรจาต่อรองราคากับผู้เสนอราคาซื้อ เพื่อให้อยู่เกณฑ์ราคาที่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐมากที่สุด