นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนและวาเลนไทน์ พบว่าจะมีเงินสะพัดรวมกัน 38,713 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการใช้จ่ายสำหรับตรุษจีน 36,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 โดยเฉพาะภาคใต้ มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดถึงร้อยละ 6 จากราคายางพาราที่สูงขึ้น
การใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการซื้อของไหว้เจ้า ทำบุญ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค แต๊ะเอีย และการท่องเที่ยว
ขณะที่การใช้จ่ายในวันวาเลนไทน์ นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ เปิดเผยว่า จะมีเงินสะพัด 2,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.35 โดยกิจกรรมที่นิยมกันมากที่สุด คือการซื้อดอกไม้ นิยมดอกกุหลาบ ทิวลิป และลิลลี่ รองลงมา คือ ช็อกโกแลต การ์ดวาเลนไทน์ และตุ๊กตา
ทางด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า บรรยากาศตรุษจีนปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แม้เศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่คนยังระวังการใช้จ่าย และลดการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ แต่เพิ่มการใช้จ่ายในเรื่องของการทำบุญ ประกอบกับปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวเน้นแบบไปเช้า-เย็นกลับ ส่งผลให้มูลค่าการท่องเที่ยวไม่สูงมากนัก
การใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการซื้อของไหว้เจ้า ทำบุญ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค แต๊ะเอีย และการท่องเที่ยว
ขณะที่การใช้จ่ายในวันวาเลนไทน์ นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ เปิดเผยว่า จะมีเงินสะพัด 2,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.35 โดยกิจกรรมที่นิยมกันมากที่สุด คือการซื้อดอกไม้ นิยมดอกกุหลาบ ทิวลิป และลิลลี่ รองลงมา คือ ช็อกโกแลต การ์ดวาเลนไทน์ และตุ๊กตา
ทางด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า บรรยากาศตรุษจีนปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แม้เศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่คนยังระวังการใช้จ่าย และลดการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ แต่เพิ่มการใช้จ่ายในเรื่องของการทำบุญ ประกอบกับปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ทำให้กิจกรรมการท่องเที่ยวเน้นแบบไปเช้า-เย็นกลับ ส่งผลให้มูลค่าการท่องเที่ยวไม่สูงมากนัก
