น.ส.กุสุมา อินทร์ศรี อายุ 27 ปี พนักงานประจำสายการบินแห่งหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบคดีฆาตกรรม นางกุหลาบ อินทร์ศรี มารดา หลังเวลาผ่านไปกว่า 2 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากมีผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกรงว่า จะมีการช่วยเหลือกัน
น.ส.กุสุมา กล่าวว่า มารดาหายตัวไปจากบ้านพักในพื้นที่ สภ.บ้านเทื่อม จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 โดยมีคราบเลือดติดที่เตียงนอน จากนั้นตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งวันที่ 8 มกราคม 2553 ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ได้ทำการจับกุม นางเยาวลักษณ์ โฆษิต ในข้อหาจ้างวานฆ่านางกุหลาบ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ใช้เงิน 60,000 บาท ว่าจ้างตำรวจ สภ.บ้านเลื่อม 2 นาย ทำการฆาตกรรม และแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี โดยมีชนวนเหตุจากความหึงหวงที่ผู้เสียชีวิตไปมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับตำรวจ สภ.บ้านเทื่อม อีกคนหนึ่ง
น.ส.กุสุมา กล่าวอีกว่า หลังจากแถลงข่าว คดียังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนไม่ยอมออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอด โดยอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ เนื่องจากยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต แต่ตนพยายามติดตามสอบถามต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกตำรวจ 2 นายแล้ว
อย่างไรก็ตาม เกรงว่า อาจจะมีการดึงเรื่องให้ล่าช้า และมีการช่วยเหลือกัน อีกทั้งเกรงว่า อาจมีการทำลายศพนางกุหลาบมารดาของตนได้
ด้านนายธาริต กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตรวจสอบ และเตรียมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริง ก็มีแนวโน้มว่าจะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป อย่างไรก็ตาม หากถึงที่สุด คดีไม่ได้เป็นคดีพิเศษ ข้อมูลการสืบสวนของดีเอสไอ ผู้เสียหายมาขอไปประกอบสำนวนคดีเพื่อใช้ในการฟ้องร้องต่อศาลได้
น.ส.กุสุมา กล่าวว่า มารดาหายตัวไปจากบ้านพักในพื้นที่ สภ.บ้านเทื่อม จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 โดยมีคราบเลือดติดที่เตียงนอน จากนั้นตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งวันที่ 8 มกราคม 2553 ตำรวจภูธร จ.อุดรธานี ได้ทำการจับกุม นางเยาวลักษณ์ โฆษิต ในข้อหาจ้างวานฆ่านางกุหลาบ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ใช้เงิน 60,000 บาท ว่าจ้างตำรวจ สภ.บ้านเลื่อม 2 นาย ทำการฆาตกรรม และแถลงข่าวที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี โดยมีชนวนเหตุจากความหึงหวงที่ผู้เสียชีวิตไปมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับตำรวจ สภ.บ้านเทื่อม อีกคนหนึ่ง
น.ส.กุสุมา กล่าวอีกว่า หลังจากแถลงข่าว คดียังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสอบสวนไม่ยอมออกหมายจับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอด โดยอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ เนื่องจากยังไม่พบศพผู้เสียชีวิต แต่ตนพยายามติดตามสอบถามต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกตำรวจ 2 นายแล้ว
อย่างไรก็ตาม เกรงว่า อาจจะมีการดึงเรื่องให้ล่าช้า และมีการช่วยเหลือกัน อีกทั้งเกรงว่า อาจมีการทำลายศพนางกุหลาบมารดาของตนได้
ด้านนายธาริต กล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตรวจสอบ และเตรียมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริง ก็มีแนวโน้มว่าจะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป อย่างไรก็ตาม หากถึงที่สุด คดีไม่ได้เป็นคดีพิเศษ ข้อมูลการสืบสวนของดีเอสไอ ผู้เสียหายมาขอไปประกอบสำนวนคดีเพื่อใช้ในการฟ้องร้องต่อศาลได้