นางมาลี โชคล้ำเลิศ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวภายหลังเปิดสัมมนาเรื่อง การใช้สิทธิประโยชน์ และผลกระทบจากอาฟตา ที่มีต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ว่า การจัดสัมมนาดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการ และผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้รับความรู้ครอบคลุมเกี่ยวกับรายละเอียดของความตกลงอาฟตา แม้ว่าอาฟตาจะมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาแล้ว แต่ภาพรวมยังไม่ค่อยเข้าใจตามกรอบความร่วมมือดังกล่าว ดังนั้น นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการชี้แจงทำความเข้าใจทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการในตลาดลดลง ส่งผลให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกติดลบร้อยละ 13 แต่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายกลับมาเป็นบวก ดังนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่อุตสาหกรรมหลักของไทยต้องเร่งเจาะตลาด ทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่ พร้อมทั้งจะต้องใช้สิทธิ์ตามกรอบอาฟตาให้มากขึ้น
นางมาลี กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายจะขยายมูลค่าการส่งออก ร้อยละ 10-14 โดยตั้งเป้าให้กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปีนี้มีอัตราขยายตัวเป็นบวก ร้อยละ 7-10 หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเชื่อมั่นว่าการขยายตัวการค้าในกลุ่มอาเซียนภายใต้กรอบอาฟตา ในปีนี้ จะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20-30 ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการในตลาดลดลง ส่งผลให้สินค้ากลุ่มดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกติดลบร้อยละ 13 แต่ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายกลับมาเป็นบวก ดังนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่อุตสาหกรรมหลักของไทยต้องเร่งเจาะตลาด ทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่ พร้อมทั้งจะต้องใช้สิทธิ์ตามกรอบอาฟตาให้มากขึ้น
นางมาลี กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายจะขยายมูลค่าการส่งออก ร้อยละ 10-14 โดยตั้งเป้าให้กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปีนี้มีอัตราขยายตัวเป็นบวก ร้อยละ 7-10 หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเชื่อมั่นว่าการขยายตัวการค้าในกลุ่มอาเซียนภายใต้กรอบอาฟตา ในปีนี้ จะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 20-30 ได้อย่างแน่นอน