นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเข้มงวดการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและภาวะเศรษฐกิจ หลังพบว่า ยอดเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มีอยู่ 48,000 ล้านบาท ในปี 2551 เพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท ในปี 2552 นับว่าเป็นยอดที่เพิ่มสูงมาก ดังนั้น ในปี 2553 จึงต้องการปรับลดยอดดังกล่าวลงประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ด้วยการให้โรงพยาบาลและหน่วยงานต้นสังกัด พิจารณาการเบิกจ่ายให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเบิกยาบำรุง เช่น วิตามิน หรือเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่การรักษาโดยตรง และการเบิกจ่ายยาก็ควรเหมาะสมกับระยะเวลา ไม่ให้เบิกในปริมาณที่มากเกินไป
นอกจากนี้ ให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมการรักษา เพราะบางรายรักษาโรคเดียวกันแต่ไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลหลายแห่ง และนำยาไปขายต่อ เนื่องจากยามีราคาแพง ซึ่งที่ผ่านมามีการลงโทษปรับแล้วหลายราย ซึ่งเป็นเงินนับล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อออกกฎระเบียบ พร้อมกับกระทรวงแรงงานที่ดูแลประกันสังคมในเร็วๆ นี้ด้วย
นอกจากนี้ ให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมการรักษา เพราะบางรายรักษาโรคเดียวกันแต่ไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลหลายแห่ง และนำยาไปขายต่อ เนื่องจากยามีราคาแพง ซึ่งที่ผ่านมามีการลงโทษปรับแล้วหลายราย ซึ่งเป็นเงินนับล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อออกกฎระเบียบ พร้อมกับกระทรวงแรงงานที่ดูแลประกันสังคมในเร็วๆ นี้ด้วย