นายกฯย้ำพัฒนา ศก.โดยเน้นภาคเกษตร-อาหารทดแทนอุตฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "อนาคตอุตสาหกรรมในสายตานายกฯ"ในงานสัมมนา "กรีนจีดีพี อนาคตประเทศไทย" ของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยย้ำว่า ในปลายปี 2552 เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น และคาดว่า จีดีพีในปี 2553 น่าจะเติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3.5 แม้ยังมีวิกฤตหลายด้าน และที่สำคัญเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และมีพื้นฐานเข้มแข็ง รัฐบาลจึงยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะศักยภาพด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งรัฐบาลจะเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านพื้นที่ทำกิน แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ด้วยระบบประกันราคาสินค้าเกษตร พัฒนาระบบชลประทาน และเพิ่มผลผลิตสินค้าให้มีคุณภาพแข่งขันกับต่างชาติได้
ด้านอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน จะเน้นการปลูกพืชพลังงาน อาหารแปรรูป เพื่อให้เป็นที่พึ่งทางเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด
สำหรับปัญหานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เชื่อว่า ขณะนี้แนวทางการแก้ปัญหาคืบหน้าไปมาก จึงน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ เพราะรัฐบาลได้ออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รวมทั้งตั้งคณะกรรมการประสานงาน เพื่อจัดตั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนแผนการย้ายนิคมอุตสาหกรรมลงไปยังภาคใต้ อาจจะมีความขัดแย้งกับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวจึงให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปศึกษาอย่างละเอียด