คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ ในเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ผลกระทบ EIA และผลกระทบ HIA ตามที่ คกก. 4 ฝ่ายเสนอ นายกฯ คาดนำเข้า ครม. ก่อนประกาศใช้สิ้นปี แนวโน้ม 5-6 โครงการ มีโอกาสเดินหน้าต่อ เพราะได้ใบอนุญาตก่อน รธน.ปี 50
มีรายงานข่าวการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีการพิจารณาสรุปปัญหา 76 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยผลสรุปเบื้องต้นคาดว่าจะมีโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอีก 5-6 โครงการ ที่เข้าหลักเกณฑ์เดียวกับที่ศาลปกครองมีคำสั่งอนุญาตให้ 1 โครงการเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากได้รับใบอนุญาตก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2550
นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อมวลชน ภายหลังการประชุมฯ โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามี 5-6 โครงการ ที่น่าจะรอด เพราะถ้าตามเกณฑ์นี้ คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่น่าจะมีผลบังคับเขาด้วย เข้าใจว่าใบอนุญาตน่าจะก่อนรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้ประกาศใช้
โดยวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ตลอดจนวิธีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลตั้งใจจะให้มีการประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาก่อน หลังจากนั้นจึงจะออกประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า การออกประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะมีส่วนช่วยให้การเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้มอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นัดหารือร่วมกับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอีกครั้ง เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจต่อแนวทางของประกาศที่ได้ผ่านหลักเกณฑ์ในวันนี้
ทั้งนี้ การประชุมในช่วงเช้า คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ได้เสนอหลักเกณฑ์ ในการดำเนินการ เพื่อออกเป็นประกาศ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการหารือกัน ใน 6 ประเด็น ประกอบด้วย วิธีการแก้ปัญหา ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) การขึ้นทะเบียน บริษัทผู้จัดทำเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติ การรับฟังประชาพิจารณ์ และกลไกการพิจารณา (HIA) ก่อนส่งไปยังองค์กรอิสระ ซึ่งต่อไปนี้ ทุกโครงการไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือเอกชน ต้องใช้ขั้นตอนอย่างเดียวกัน พร้อมกันนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าว ยังจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการให้แก่ทุกโครงการในมาบตาพุดที่ยังมีปัญหาถูกระงับ
