นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนและดำเนินคดีกับนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และนายแพทย์กฤษฎา มนูญวงศ์ รวมถึงข้าราชการประจำอีก 8 คน ที่ผลสอบสวนของคณะกรรมการตรวจทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข
นายพร้องพงศ์ กล่าวอีกว่า มติของพรรคภูมิใจไทยที่อุ้มนายมานิต ถือเป็นการฉีกกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงความไม่มีอำนาจและบารมีทางการเมือง และขาดภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถดำเนินการกับนายมานิตได้ จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจใช้กฎเหล็ก หากทำไม่ได้ก็ควรพิจารณาตัวเอง
นอกจากนี้ นายพร้องพงศ์ ยังกล่าวถึงการแถลงความคืบหน้า 5 คดีที่พรรคเพื่อไทยยื่นต่อ ป.ป.ช.ว่า เป็นเพียงการแถลงสร้างภาพของ ป.ป.ช. เพราะเกรงฝ่ายค้านจะร้องเรียนการทำหน้าที่ ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตมาตรฐานการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่หลายคดีใช้เวลานานจนใกล้หมดอายุความ ขณะที่บางคดีมีหลักฐานชัดเจนแต่ไม่มีความคืบหน้า พรรคเพื่อไทยจะรอผลการตัดสินใน 5 คดี หากไม่สามารถเอาผิดได้ จะเข้าชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นประธานวุฒิสภาถอดถอน ป.ป.ช.ต่อไป
นายพร้องพงศ์ กล่าวอีกว่า มติของพรรคภูมิใจไทยที่อุ้มนายมานิต ถือเป็นการฉีกกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงความไม่มีอำนาจและบารมีทางการเมือง และขาดภาวะผู้นำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถดำเนินการกับนายมานิตได้ จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจใช้กฎเหล็ก หากทำไม่ได้ก็ควรพิจารณาตัวเอง
นอกจากนี้ นายพร้องพงศ์ ยังกล่าวถึงการแถลงความคืบหน้า 5 คดีที่พรรคเพื่อไทยยื่นต่อ ป.ป.ช.ว่า เป็นเพียงการแถลงสร้างภาพของ ป.ป.ช. เพราะเกรงฝ่ายค้านจะร้องเรียนการทำหน้าที่ ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตมาตรฐานการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่หลายคดีใช้เวลานานจนใกล้หมดอายุความ ขณะที่บางคดีมีหลักฐานชัดเจนแต่ไม่มีความคืบหน้า พรรคเพื่อไทยจะรอผลการตัดสินใน 5 คดี หากไม่สามารถเอาผิดได้ จะเข้าชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นประธานวุฒิสภาถอดถอน ป.ป.ช.ต่อไป