นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ได้อนุมัติให้ขยายเวลาในมาตรการภาษีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และโครงสร้างองค์กรออกไปอีก 1 ปี ให้ไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2553 โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้กับลูกหนี้ของสถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้อื่น เพื่อสงเสริมให้มีการปรับโครงสร้างหนี้และลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งในปี 2551 NPL ปรับลดลงกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท และในปี 2552 ปรับลดลง 2.3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้ขยายการงดการจัดเก็บภาษีขาเข้า 13 รายการ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถผลิตในประเทศไทยได้ อาทิ ไส้กรองไอเสียจักรยานยนต์ รวมถึงการขยายอากรขาเข้าของถังบรรจุก๊าซธรรมชาติทั้งเหล็ก 4 ประเภท ที่จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ โดยขยายเวลาออกไปอีก 1 ปีให้ไปสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2553 เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเพื่อการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะทำให้กรมศุลกากรต้องสูญเสียรายได้กว่า 35 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้ขยายการงดการจัดเก็บภาษีขาเข้า 13 รายการ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ไม่สามารถผลิตในประเทศไทยได้ อาทิ ไส้กรองไอเสียจักรยานยนต์ รวมถึงการขยายอากรขาเข้าของถังบรรจุก๊าซธรรมชาติทั้งเหล็ก 4 ประเภท ที่จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ โดยขยายเวลาออกไปอีก 1 ปีให้ไปสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2553 เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเพื่อการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะทำให้กรมศุลกากรต้องสูญเสียรายได้กว่า 35 ล้านบาท
