นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ยืนยันว่า การให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นผู้ชี้ขาดกรณีพิจารณาสำนวนเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากที่ประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นควรให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้เสนอความเห็นตามมาตรา 95 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งแตกต่างจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว. ที่จะทำให้ยุบพรรคการเมืองได้ ดังนั้น หากยกคำร้องเรื่องก็จบ แต่หากมีคำสั่งให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะต้องขอความเห็นจากที่ประชุม ซึ่งคาดว่าสัปดาห์นี้ประธาน กกต.จะเสนอความเห็นและวินิจฉัยสำนวนดังกล่าวได้
นางสดศรี ยืนยันว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับแรงกดดันจากกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงอยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมดาขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นถอดถอน กกต.ก็สามารถทำได้ เพราะมั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย
ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ยืนยันว่า การพิจารณาสำนวนเงินบริจาคเป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องพิจารณาไปตามหลักฐานและระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาเพื่อเข้าข้างฝ่ายใด พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เห็นแก่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ขณะเดียวกัน นายอภิชาต ยังเรียกร้องให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำหลักฐานที่เกี่ยวกับเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ มาให้ กกต.หากมีหลักฐานชัดเจน
นางสดศรี ยืนยันว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาก็ได้รับแรงกดดันจากกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงอยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมดาขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นถอดถอน กกต.ก็สามารถทำได้ เพราะมั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย
ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ยืนยันว่า การพิจารณาสำนวนเงินบริจาคเป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องพิจารณาไปตามหลักฐานและระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการยื้อเวลาเพื่อเข้าข้างฝ่ายใด พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เห็นแก่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ขณะเดียวกัน นายอภิชาต ยังเรียกร้องให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำหลักฐานที่เกี่ยวกับเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ มาให้ กกต.หากมีหลักฐานชัดเจน