การเกิดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทย เป็น 1 ใน 3 ของปัญหาสาธารณสุข และมีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 13,000 คน เฉลี่ยวันละ 35 คน บาดเจ็บกว่า 1 ล้านคน โดยใน 10 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2553-2563 องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยตั้งเป้าลดผู้เสียชีวิตลงครึ่งหนึ่ง
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้เตรียมพัฒนาระบบข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ซึ่งมีใช้ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีแผนพัฒนาระบบดังกล่าวเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนผู้บาดเจ็บ ด้วยการเพิ่มเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อเชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ โดยจะขยายระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลทุกจังหวัด ทุกแห่ง ในปี 2556
ระบบข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรนี้สามารถบอกความรุนแรงของปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งบอกสาเหตุการเกิด ประเภทรถ พฤติกรรมของกลุ่ม อายุที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจราจรได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังใช้เป็นข้อมูลในการติดตามพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ การใช้หมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย และการใช้โทรศัพท์มือถือ และนำมาใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจร
นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้เตรียมพัฒนาระบบข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ซึ่งมีใช้ตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีแผนพัฒนาระบบดังกล่าวเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนผู้บาดเจ็บ ด้วยการเพิ่มเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อเชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ โดยจะขยายระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาลทุกจังหวัด ทุกแห่ง ในปี 2556
ระบบข้อมูลการเฝ้าระวังการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรนี้สามารถบอกความรุนแรงของปัญหาการบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งบอกสาเหตุการเกิด ประเภทรถ พฤติกรรมของกลุ่ม อายุที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจราจรได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ยังใช้เป็นข้อมูลในการติดตามพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ การใช้หมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย และการใช้โทรศัพท์มือถือ และนำมาใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจร
