นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาจากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับชั่วคราว 65 โครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งภาคอุตสาหกรรม ด้านเศรษฐกิจ ที่จะทำให้การส่งออกลดลง ตัดขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ขณะที่นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเสนอให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลได้ละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายหลายข้อ อาทิ มาตรา 92 พระราชบัญญัติส่งเสริมการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2555 และที่สำคัญ คือรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 โดยมีการดำเนินการหลายประการที่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งความพยายามในการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ เพื่อออกใบอนุญาตในการลงทุนให้กับทั้ง 16 โครงการ หรือความพยายามในการปรับแก้เนื้อหากฎหมายในมาตรา 51 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50
ขณะที่นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเสนอให้ถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลได้ละเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายหลายข้อ อาทิ มาตรา 92 พระราชบัญญัติส่งเสริมการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2555 และที่สำคัญ คือรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 โดยมีการดำเนินการหลายประการที่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งความพยายามในการให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ เพื่อออกใบอนุญาตในการลงทุนให้กับทั้ง 16 โครงการ หรือความพยายามในการปรับแก้เนื้อหากฎหมายในมาตรา 51 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50