“เพื่อไทย” ชี้ศาลระงับโครงการอุตสาหกรรมมาบตะพุด บทพิสูจน์ฝีมือรัฐบาล ยังทำมึนเหตุคำสั่งยกเว้น 11 โครงการ แถมเอาสีข้างเข้าถู เชื่อคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ใช่ยกเลิก ร้อนใจแทนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูง หวั่นกระทบการฟื้นฟูเศรษฐกิจในอนาคต
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ระงับโครงการอุตสาหกรรมในมาบตาพุดจำนวน 65 โครงการว่า มติของศาลเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งเป็นประเภทกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ แต่ไม่ชัดเจนว่าเพราะเหตุใดศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นโดยยกเว้น 11 โครงการโดยให้เหตุผลว่าเป็นโครงการที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างชัดเจน และการคุ้มครองชั่วคราวนั้นไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นเพียงเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องก่อนดำเนินการต่อไป ฉะนั้นรัฐบาลต้องเร่งรัดทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำอีไอเอ เอชไอเอ แนวทางปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค2 รวมทั้งเร่งจัดตั้งองค์กรอิสระและสุขภาพซึ่งคาดว่าจะเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน
นายคณวัฒน์กล่าวอีกว่า ในระยะสั้นแน่นอนที่สุดว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องคำสั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว เพราะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ที่เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตอื่นๆ อีกมาก จะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้เชื่อว่ายังไม่ถึงขนาดทำให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการลงทุน ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังศึกษารายละเอียดเพื่อประเมินผลกระทบก่อนกำหนดเป็นแนวนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทความรับผิดชอบของภาครัฐต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมและนักลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจจากภาคประชาสังคมและเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมา
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ระงับโครงการอุตสาหกรรมในมาบตาพุดจำนวน 65 โครงการว่า มติของศาลเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งเป็นประเภทกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ แต่ไม่ชัดเจนว่าเพราะเหตุใดศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นโดยยกเว้น 11 โครงการโดยให้เหตุผลว่าเป็นโครงการที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงอย่างชัดเจน และการคุ้มครองชั่วคราวนั้นไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นเพียงเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องก่อนดำเนินการต่อไป ฉะนั้นรัฐบาลต้องเร่งรัดทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำอีไอเอ เอชไอเอ แนวทางปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค2 รวมทั้งเร่งจัดตั้งองค์กรอิสระและสุขภาพซึ่งคาดว่าจะเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน
นายคณวัฒน์กล่าวอีกว่า ในระยะสั้นแน่นอนที่สุดว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องคำสั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว เพราะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ที่เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตอื่นๆ อีกมาก จะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้เชื่อว่ายังไม่ถึงขนาดทำให้นักลงทุนต่างชาติย้ายฐานการลงทุน ขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังศึกษารายละเอียดเพื่อประเมินผลกระทบก่อนกำหนดเป็นแนวนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทความรับผิดชอบของภาครัฐต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมและนักลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจจากภาคประชาสังคมและเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมา