ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งกรณีผู้ถูกฟ้องทั้ง 8 ราย ในคดีระงับโครงการ 76 โครงการ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยให้แก้ไขคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งโครงการที่เป็นโครงการสะอาดดำเนินการต่อได้ทันที ส่วนโครงการบางส่วน ยืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากเป็นโครงการที่ยังไม่ได้ทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงผลกระทบของประชาชนในพื้นที่ เช่น โครงการโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 โครงการท่าเทียบเรือ และคลังผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด ระบุว่า การที่เจ้าของโครงการต้องชะลอโครงการออกไป จนส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคประชาชนนั้น ว่า ไม่ได้เกิดจากคำสั่งของศาลโดยตรง แต่เป็นเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ โดยในอารยะประเทศ หรือประเทศที่มีความเจริญ มีการพัฒนาก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
นอกจากนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีการปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นความเสียหายเพียงชั่วคราว แม้อาจจะกระทบต่อสิทธิของผู้ดำเนินโครงการอยู่บ้าง แต่หากเป็นโครงการที่รุนแรงจะต้องมีการปรับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งเจ้าของกิจการต้องเคารพต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่
ศาลปกครองสูงสุด ยังระบุว่า คำสั่งที่เกิดขึ้นจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับผู้ประกอบการที่จะดำเนินการในอนาคต ไม่ให้ขัดต่อกกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด ระบุว่า การที่เจ้าของโครงการต้องชะลอโครงการออกไป จนส่งผลต่อเศรษฐกิจภาคประชาชนนั้น ว่า ไม่ได้เกิดจากคำสั่งของศาลโดยตรง แต่เป็นเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ โดยในอารยะประเทศ หรือประเทศที่มีความเจริญ มีการพัฒนาก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
นอกจากนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีการปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นความเสียหายเพียงชั่วคราว แม้อาจจะกระทบต่อสิทธิของผู้ดำเนินโครงการอยู่บ้าง แต่หากเป็นโครงการที่รุนแรงจะต้องมีการปรับ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งเจ้าของกิจการต้องเคารพต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่
ศาลปกครองสูงสุด ยังระบุว่า คำสั่งที่เกิดขึ้นจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับผู้ประกอบการที่จะดำเนินการในอนาคต ไม่ให้ขัดต่อกกฎหมายรัฐธรรมนูญ