พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังตำรวจพร้อมหมายเรียกไปยังบ้านเลขที่ 7/348 ซอยวิภาวดีรังสิต 36 เขตจตุจักร ซึ่งเป็นบ้านพักของนายบัณฑูร สุภัควนิช อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง หลังมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และพบว่านายบัณฑูร อาจเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตงบประมาณในโครงการของรัฐ เช่น โครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถจักรยานยนต์และรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงโครงการอื่นๆ ของหน่วยงานรัฐ โดยระหว่างที่ตำรวจเดินทางมาถึง นายบัณฑูร อยู่ภายในบ้านพัก แต่ให้คนสนิทเป็นผู้ออกมารับหมายแทน
ขณะที่กำลังตำรวจอีกชุดหนึ่ง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 5/55 หมู่บ้านคฤหาสน์ทายาท จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้าน พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ตำรวจนอกราชการ อดีตนายเวรนายตำรวจระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้อมูลระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องคดีทุจริตโครงการของรัฐ
พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่า พบผู้เกี่ยวข้องการทุจริตโครงการของรัฐ ซึ่งมีข้าราชการระดับสูง ทั้งในส่วนของตำรวจและหน่วยงานต่างๆ ที่เกษียณอายุราชการและยังรับราชการอยู่ รวมถึงภาคเอกชน ซึ่งการกระทำความผิดมีการทำงานเป็นขบวนการ และยังพบความเชื่อมโยงกับโครงการของรัฐอีกหลายคดี
สำหรับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจกองปราบปรามเข้าค้นจุดสำคัญ 3 จุด ที่ต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,000 ล้านบาท
ขณะที่กำลังตำรวจอีกชุดหนึ่ง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 5/55 หมู่บ้านคฤหาสน์ทายาท จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้าน พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ตำรวจนอกราชการ อดีตนายเวรนายตำรวจระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยข้อมูลระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องคดีทุจริตโครงการของรัฐ
พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่า พบผู้เกี่ยวข้องการทุจริตโครงการของรัฐ ซึ่งมีข้าราชการระดับสูง ทั้งในส่วนของตำรวจและหน่วยงานต่างๆ ที่เกษียณอายุราชการและยังรับราชการอยู่ รวมถึงภาคเอกชน ซึ่งการกระทำความผิดมีการทำงานเป็นขบวนการ และยังพบความเชื่อมโยงกับโครงการของรัฐอีกหลายคดี
สำหรับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจกองปราบปรามเข้าค้นจุดสำคัญ 3 จุด ที่ต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 12,000 ล้านบาท
