นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเสือป่าพลาซ่า ในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย หลังได้รับรายงานว่าอาคารดังกล่าวเจ้าของได้ฝ่าฝืนเข้าไปก่อสร้างต่อเติมอาคาร เนื่องจากอาคารดังกล่าว สำนักการโยธามีคำสั่งห้ามบุคคลใดเข้า-ออกอาคาร พร้อมกับห้ามให้มีการต่อเติมปรับปรุง ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2552 จากเหตุเพลิงไหม้ และต่อมาในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีคำสั่งให้เจ้าของรื้อถอนอาคาร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ประเมินแล้วว่า โครงสร้างอาคารไม่ได้มาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม เจ้าของอาคารได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของ กทม.ไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ สำนักงานควบคุมอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งระหว่างที่คณะกรรมการอยู่ระหว่างพิจารณา ในส่วนของอาคารจะไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปใช้พื้นที่ได้ แต่ปรากฏว่า เจ้าของอาคารฝ่าฝืนลักลอบเข้าไปต่อเติมอาคารจนขณะนี้ใกล้เกือบสมบูรณ์แล้ว
นายพรเทพ กล่าวต่อไปว่า อาคารดังกล่าวสร้างผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น รวมทั้งฝ่าฝืนคำสั่ง และถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจเข้าจับกุมแล้วถึง 4 ครั้ง แต่เจ้าของยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปรับ ขณะนี้เรื่องส่งไปยังศาล เพื่อให้พิจารณาจำนวนเงินค่าปรับ ซึ่งมีโทษสูงสุดไม่เกินวันละ 30,000 บาท และแอบก่อสร้างเรื่อยมา จนทางตึกประกาศว่า จะสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ และเปิดให้จองร้านค้าในเดือนมกราคม ซึ่งหากปล่อยให้สร้างเสร็จเชื่อว่า ปัญหาจะตามมาอย่างแน่นอน
ดังนั้นหลังจากนี้ จะต้องมีมาตรการเด็ดขาด ไม่ให้มีการก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ แนวทางเบื้องต้นที่เตรียมไว้คือ จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจจากส่วนกลางเข้ามาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจของเขตมาดูแล แต่ไม่ได้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จึงอาศัยช่องว่างเข้าไปแอบก่อสร้าง
ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักการโยธา ให้พิจารณาขั้นตอนดำเนินการ ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมกับเจ้าของอาคารที่แท้จริง และเสนอให้ตนพิจารณาภายในวันจันทร์นี้ (16 พ.ย.)
นายพรเทพ กล่าวยืนยันว่า จะทำทุกทาง เพื่อไม่ให้มีการก่อสร้างอาคารให้เสร็จเด็ดขาด โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ขอความร่วมมือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ตัดไฟฟ้าในอาคาร รวมถึงเตรียมทำเอกสารชี้แจงประชาชนในพื้นที่ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีอาคารที่ไม่มั่นคงอยู่ในพื้นที่ และจะขอให้ประชาชนเป็นแรงกดดันเจ้าของอาคารอีกทางหนึ่ง ส่วนอาคารร้างอื่นๆ ใน กทม.พบว่า ยังมี 70 กว่าแห่ง แต่ที่เป็นอันตรายเนื่องจากตัวอาคารถูกไฟไหม้มีประมาณ 5-6 แห่ง จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ส่วนเรื่องพื้นที่จุดเสี่ยงอื่นๆ ในพื้นที่ กทม.นายพรเทพ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ฝ่ายสำนักการโยธาของทุกสำนักงานเขต ทำงานร่วมกับ สน.ในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ ขณะนี้ได้รับรายงานพบว่า มีกว่า 1,500 จุด จะได้เร่งดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างให้แล้วเสร็จในทุกจุดภายในปีนี้ รวมถึงนโยบายติดตั้งในพื้นที่อื่นๆ รวม 10,000 จุด ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 9,000 จุด จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เช่นกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม เจ้าของอาคารได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของ กทม.ไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ สำนักงานควบคุมอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งระหว่างที่คณะกรรมการอยู่ระหว่างพิจารณา ในส่วนของอาคารจะไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปใช้พื้นที่ได้ แต่ปรากฏว่า เจ้าของอาคารฝ่าฝืนลักลอบเข้าไปต่อเติมอาคารจนขณะนี้ใกล้เกือบสมบูรณ์แล้ว
นายพรเทพ กล่าวต่อไปว่า อาคารดังกล่าวสร้างผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น รวมทั้งฝ่าฝืนคำสั่ง และถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจเข้าจับกุมแล้วถึง 4 ครั้ง แต่เจ้าของยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปรับ ขณะนี้เรื่องส่งไปยังศาล เพื่อให้พิจารณาจำนวนเงินค่าปรับ ซึ่งมีโทษสูงสุดไม่เกินวันละ 30,000 บาท และแอบก่อสร้างเรื่อยมา จนทางตึกประกาศว่า จะสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ และเปิดให้จองร้านค้าในเดือนมกราคม ซึ่งหากปล่อยให้สร้างเสร็จเชื่อว่า ปัญหาจะตามมาอย่างแน่นอน
ดังนั้นหลังจากนี้ จะต้องมีมาตรการเด็ดขาด ไม่ให้มีการก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จ แนวทางเบื้องต้นที่เตรียมไว้คือ จะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจจากส่วนกลางเข้ามาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจของเขตมาดูแล แต่ไม่ได้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จึงอาศัยช่องว่างเข้าไปแอบก่อสร้าง
ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักการโยธา ให้พิจารณาขั้นตอนดำเนินการ ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมกับเจ้าของอาคารที่แท้จริง และเสนอให้ตนพิจารณาภายในวันจันทร์นี้ (16 พ.ย.)
นายพรเทพ กล่าวยืนยันว่า จะทำทุกทาง เพื่อไม่ให้มีการก่อสร้างอาคารให้เสร็จเด็ดขาด โดยมอบหมายให้สำนักงานเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ขอความร่วมมือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ตัดไฟฟ้าในอาคาร รวมถึงเตรียมทำเอกสารชี้แจงประชาชนในพื้นที่ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีอาคารที่ไม่มั่นคงอยู่ในพื้นที่ และจะขอให้ประชาชนเป็นแรงกดดันเจ้าของอาคารอีกทางหนึ่ง ส่วนอาคารร้างอื่นๆ ใน กทม.พบว่า ยังมี 70 กว่าแห่ง แต่ที่เป็นอันตรายเนื่องจากตัวอาคารถูกไฟไหม้มีประมาณ 5-6 แห่ง จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนต่อไป
ส่วนเรื่องพื้นที่จุดเสี่ยงอื่นๆ ในพื้นที่ กทม.นายพรเทพ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ฝ่ายสำนักการโยธาของทุกสำนักงานเขต ทำงานร่วมกับ สน.ในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ ขณะนี้ได้รับรายงานพบว่า มีกว่า 1,500 จุด จะได้เร่งดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างให้แล้วเสร็จในทุกจุดภายในปีนี้ รวมถึงนโยบายติดตั้งในพื้นที่อื่นๆ รวม 10,000 จุด ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 9,000 จุด จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เช่นกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน