พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี พร้อมสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกทีวีของกัมพูชา ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ แสดงความเชื่อมั่นว่าไม่มีทางที่สมเด็จฮุน เซน จะส่งตัวให้กับทางการไทย พร้อมยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้ ขอให้รัฐบาลไทยวางใจ จะไม่ทำอะไรให้ประเทศไทยเสียหาย ส่วนสมเด็จฮุน เซน เปิดเผยว่า การเจราจาระหว่างไทย-กัมพูชา ต้องการการเจรจาให้เกิดสันติ แต่การเจรจาจะไม่มีการพูดคุยเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนของ พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งโดยส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกคนไทย ทางกัมพูชาจะไม่พาดพิงถึงประเทศไทยแน่นอน
สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจได้ว่าทางการกัมพูชาจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาที่ประเทศไทย ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของสมเด็จฮุน เซน เป็นตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยกษัตริย์ของกัมพูชา 2. สัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะไม่นับรวมในกรณีที่เป็นนักโทษทางการเมือง และ 3. คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหานั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังการทำรัฐประหารที่ประเทศไทย ซึ่งไม่มีความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ข่าวของ พ.ต.ท. ทักษิณ และสมเด็จฮุน เซน ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะทางแถบยุโรป และสื่อมวลชนต่างชาติ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไทยกับกัมพูชาจะสามารถเจราจากันได้ หากยังใช้วิธีการทูต แต่หากมีการใช้กระแสคลั่งชาติมาเกี่ยวข้องจะทำให้ปัญหานี้ลุกลามไปได้
สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า ขอให้มั่นใจได้ว่าทางการกัมพูชาจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาที่ประเทศไทย ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของสมเด็จฮุน เซน เป็นตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งโดยกษัตริย์ของกัมพูชา 2. สัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจะไม่นับรวมในกรณีที่เป็นนักโทษทางการเมือง และ 3. คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกเป็นผู้ต้องหานั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังการทำรัฐประหารที่ประเทศไทย ซึ่งไม่มีความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม ข่าวของ พ.ต.ท. ทักษิณ และสมเด็จฮุน เซน ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะทางแถบยุโรป และสื่อมวลชนต่างชาติ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไทยกับกัมพูชาจะสามารถเจราจากันได้ หากยังใช้วิธีการทูต แต่หากมีการใช้กระแสคลั่งชาติมาเกี่ยวข้องจะทำให้ปัญหานี้ลุกลามไปได้