นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล เลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เปิดเผยว่า หลังจากสมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งประกาศนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลือง ประจำปี 2553 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันภายในวันที่ 1 มกราคมนี้ และสามารถนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการเลี้ยงสัตว์ได้อย่างต่อเนื่อง แต่พบว่าขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
ในวันนี้สมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ ประกอบด้วย 11 สมาคมด้านปศุสัตว์ ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการประกาศนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลือง ประจำปี 2553 ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้ากากถั่วเหลืองตามมติคณะอนุกรรมการกำกับดูแลวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่กำหนดให้นำเข้าในอัตราร้อยละ 2 ได้ทันภายในวันที่ 1 มกราคมนี้ เนื่องจากหากล่าช้าจะส่งผลต่อภาระต้นทุนด้านการขนส่งของผู้ประกอบการ วันละกว่า 3 ล้านบาท และเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าเพื่อการเลี้ยงสัตว์ วันละ 2 แสนตัน เป็นสาเหตุทำให้ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศปรับสูงขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยอมรับว่า มีความกังวลว่าการประกาศนโยบายดังกล่าวจะล่าช้า เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระด้านต้นทุนของผู้ประกอบการให้สูงขึ้น และทำให้ประชาชนต้องซื้อเนื้อสุกรในประเทศในราคาที่สูงขึ้นประมาณร้อยละ 10 นอกจากนั้นยังกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยกับประเทศคู่ค้าด้วย
ในวันนี้สมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ ประกอบด้วย 11 สมาคมด้านปศุสัตว์ ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการประกาศนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลือง ประจำปี 2553 ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้ากากถั่วเหลืองตามมติคณะอนุกรรมการกำกับดูแลวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่กำหนดให้นำเข้าในอัตราร้อยละ 2 ได้ทันภายในวันที่ 1 มกราคมนี้ เนื่องจากหากล่าช้าจะส่งผลต่อภาระต้นทุนด้านการขนส่งของผู้ประกอบการ วันละกว่า 3 ล้านบาท และเกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าเพื่อการเลี้ยงสัตว์ วันละ 2 แสนตัน เป็นสาเหตุทำให้ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศปรับสูงขึ้นตามไปด้วย
ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยอมรับว่า มีความกังวลว่าการประกาศนโยบายดังกล่าวจะล่าช้า เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระด้านต้นทุนของผู้ประกอบการให้สูงขึ้น และทำให้ประชาชนต้องซื้อเนื้อสุกรในประเทศในราคาที่สูงขึ้นประมาณร้อยละ 10 นอกจากนั้นยังกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยกับประเทศคู่ค้าด้วย
